เรื่อง + ภาพ : eyejung
เมื่อกระแสละครอย่างเรื่อง “นาคี” โด่งดังมากมาย ตำนานเรื่องพญานาคก็เหมือนกับมามีชีวิตอีกครั้ง กระแสแห่งพญานาคนิยมในยุคโลกาภิวัตน์ปรากฏการณ์คติความเชื่อในสังคมไทยปัจจุบันมีความเชื่อเรื่อง สิ่งเหนือธรรมชาติที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีอยู่จริงหรือไม่ แต่ก็ยังมีผู้ที่พยายามจะเชื่อในอํานาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่างๆ เหล่านั้น เกิดเป็นกระแส พญานาคฟีเวอร์โดยเฉพาะกระแส พญานาค คําชะโนด หรือสถานการณ์บั่งไฟพญานาคแถวลุมแม่น้ำโขงระหว่างฝั่งประเทศสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาวในช่วงเทศกาลออกพรรษาจะปรากฏการณ์บั่งไฟพญานาคเกิดขึ้น บ้างก็ว่าบั่งไฟพญานาคเกิดขึ้นโดยการกระทําของมนุษย์จากสถานการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดข้อสงสัยในสิ่งที่ เหนือธรรมชาติยังไม่สามารถที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ว่าจริงหรือไม่จริง อย่างไรก็ตามก็ได้มีผู้กล่าวถึง เรื่องราวของพญานาคที่ปรากฏในพระไตรปิฎกบ้าง จากเรื่องเล่าของเกจิอาจารย์ต่างๆ บ้าง กลุ่มที่มีความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคพยายามที่หาเหตุผลมาอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆ ของพญานาคตามการเล่าขานตํานานสืบต่อกันมาถึงเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ปาฏิหาริย์ของพญานาค โดยเพราะตํานานเมืองคําชะโนด มีการพยายามอธิบายถึงเรื่องราวเกี่ยวกับความมีอยู่จริงของพญานาค
จากเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับพญานาคเป็นสิ่งที่กล่าวถึงความศักดิ์สิทธิ์พญานาคไม่ควรลบหลู่ ดังนั้นผู้ที่มีความเชื่อความ ศักดิ์สิทธิ์ของพญานาคจึงมีการบนบานศาลกล่าวบ้าง มีการนําน้ำศักดิ์สิทธิ์ในบ่อน้ำพญานาคไปรักษา โรคบ้างและนําไปบูชาบ้าง สิ่งเหล่านี้จึงทําให้เกิดการเพิ่มมูลค่าความเชื่อศรัทธาและความศักดิ์สิทธิ์ ของพญานาคในรูปแบบต่างๆ มุมมองมิติความเชื่อพญานาคก่อให้เกิดความสัมพันธ์หลากหลายทั้ง ความเชื่อทางศาสนา วิถีชีวิตของชุมชนและค่านิยมของคนในมิติต่างๆ จะเห็นได้ว่าคติความเชื่อ พญานาคจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม สิ่งสําคัญคติความเชื่อพญานาคยังจะมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของผู้คน จํานวนมาก
ซึ่งปัจจุบันสถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวกับพญานาคมีมากมาย โดยเฉพาะในภาคอีสาน ที่มีตำนานความเชื่อและเอกลักษณ์อันโดดเด่นคงหนีไม่พ้นที่คำชะโนด แต่ถ้าอยากเที่ยวเมืองบาดาลใกล้กรุง ไม่ต้องเดินทางไปถึงภาคอีสานก็ต้อง “วัดมณีวงศ์” ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดนครนายก โดดเด่นด้วยความมีชื่อเสียงของถ้ำพญานาค ที่มีความงดงามตระการตาเหมือนหลุดเข้าไปในเมืองบาดาลมีองค์พญานาค ภายในจะมีพญานาคทั้ง 4 ตระกูล และบริวารรวมแล้วมากกว่า 1,000 ตัว ที่ถูกปั้นด้วยลายแกะสลักที่มีศิลปะอ่อนช้อย ประดับด้วยไฟหลากสีสันให้ให้ภาพถ่ายดูมีมิติความสวยงามเหมือนเมืองบาดาลในจินตนาการ เมื่อเดินผ่านประตูเข้าไปจะพบกับพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ตั้งประดิษฐานเป็นองค์ประทาน นามว่า พระมหาจักรพรรดิชัยบาดาร ขนาดหน้าตัก 9 เมตร สูง 14 เมตร เป็นปางมารวิชัย ให้ผู้ที่เข้ามาได้กราบไหว้บูชา รวมทั้ง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ด้านบนของถ้ำ คือ พระรัตนมณีมหาบาดาลบอกเลยว่าอลังการงานสร้าง แม้จะยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวแห่แหนกันไปเที่ยวมากมาย จนทางวัดต้องจัดคิวให้เข้าชมรอบละ 100 คน ให้เวลารอบละ 15 นาที โดยเข้าคิวตามลำดับก่อนหลัง จะมีเก้าอี้ให้นั่งรอ หากมาวันเสาร์ อาทิตย์ คนค่อนข้างเยอะมาก อาจจะรอนานนิดนึง บางท่านอาจต้องรอนานจะเกิน 1 ชั่วโมงก็มี ตอนนี้มีเปิดให้จองคิวออนไลน์ด้วย หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ถ้ามาในช่วง 7-9 โมง และ 16.00-17.00 น. แนะนำให้ไปแต่เช้าจะได้คิวที่เร็วหน่อย อย่าเกิน 7 โมงเช้า แต่สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบถ่ายภาพอาจจะขัดใจกับเวลาที่ให้ในการเดินถ่ายภาพ ที่ดูแล้วไม่ค่อยจุใจเท่าไหร่ อาจจะต้องรอกระแสความฮิตลดน้อยลง หรือเลือกไปในวันธรรมดา ก็พอจะมีเวลาให้เข้าไปเก็บภาพแบบไม่ต้องรอคิวนาน
สิ่งที่เรามาแนะนำคือเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว ที่เกี่ยวกับพญานาค ซึ่งเรื่องราวความเชื่อของพญานาค เป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล ใครมีความเชื่อแบบไหนก็ว่ากันไป แต่ถ้าใครชอบถ่ายภาพไม่ว่าจะเชื่ออะไร ภาพถ่ายก็มีคุณค่าทางใจเสมอ Bye…eyejung