เรื่อง+ภาพ : นายจักรยาน
บทความนี้มาจาก Camerart Magazine 259/2019 April
ผมเพิ่งมาทราบว่า ที่ระยองมีป่าชายเลนให้เที่ยวชมถึงสองแห่ง ในแต่ละแห่ง มีความสวยงาม ต้นไม้เขียวมีความสมบูรณ์แบบ ได้รับการดูแล และพัฒนาฟื้นฟูเป็นอย่างดี จากกลุ่มชุมชนในพื้นที่ และหน่วยงานที่ให้การสนับสนุน ป่าชายเลนทั้งสองแห่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดระยอง มีนักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวและเชคอินกันมาก ป่าชายเลนทั้งสองแห่งคือ ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส และ ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน พระเจดีย์กลางน้ำ
หอชมวิวเฉลิมพระเกียรติ ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน พระเจดีย์กลางน้ำ
ชื่อค่อนข้างยาว อยู่กลางเมือง ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำระยอง บ้านปากน้ำ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง บริหารและร่วมกันจัดการโดย เทศบาลระยอง และกลุ่มอนุรักษ์แม่น้ำระยองและป่าชายเลน โดยมีบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุน ที่โดดเด่นมากที่สุดจนกลายเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ก็คือ การที่บริษัทจัดสร้างหอชมวิวเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ โดยทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 มีวัตถุประสงค์ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศป่าชายเลน เป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้สัมผัสธรรมชาติของป่าชายเลน และได้เห็นวิถีชีวิตของการอยู่ร่วมกันของระบบนิเวศของป่าชายเลนที่ กำลังจะหมดลงไปเรื่อยๆ
นอกจากเป็นสถานที่พักผ่อนแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพัฒนาการไปสู่แหล่งท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์ของจังหวัดระยองอีกด้วย ระหว่างเดินเท้าเข้าไป เราจะพบ “คอนโดปู” เป็นที่พักอาศัย และขยายพันธุ์ทางธรรมชาติของสัตว์น้ำเช่น ปูแสม ปูหนุมาน ปูดำ ปูม้า และปลาชนิดต่างๆ เพื่อให้เกิดเป็นระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์ ไอเดียดังกล่าวเกิดจากความคิดของกลุ่มอนุรักษ์แม่น้ำและป่าชายเลน โดยนำไม้แสม โกงกาง และเศษไม้มาปักทับถม ให้เหมือนกับเป็นที่พักอาศัยของปูนั่นเอง โดยธรรมชาติของปูจะทำรังพักอาศัยหลบแดดอยู่ภายใต้ซากกิ่งไม่ ซากใบไม้ เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน หมดแสง น้ำลง ปูก็จะออกมาหากิน สุดทางจะเจอจุดที่เป็นแลนด์มาร์ค นั่นคือหอชมวิวเฉลิมพระเกียรติ เมื่อขึ้นถึงชั้นบนสุดจะเห็นวิวท้องทุ่งยอดไม้เขียวของป่าชายเลนด้านล่าง อีกด้านหนึ่งเป็นทะเล และชุมชนริมชายฝั่งบริเวณปากแม่น้ำ ในชั้นบนสุดสามารถถ่ายรูปได้แบบพาโนราม่า มีมุมมองให้กดชัตเตอร์อย่างมากมาย มีลมทะเลเย็นๆ โชยมาตลอดเวลา ที่นี่จะเปิดตั้งแต่เวลา 9:00-18:00 น.
พระเจดีย์กลางน้ำ จังหวัดระยอง
อีกสถานที่หนึ่งที่อยู่ติดกันคือ พระเจดีย์กลางน้ำ เป็นเสมือนสัญลักษณ์ประจำเมืองระยอง ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำระยอง โอบล้อมด้วยป่าชายเลน อยู่ในบริเวณก่อนถึงปากแม่น้ำระยอง ปัจจุบันได้มีการบูรณะดูแล และอยู่ในความดูแลของวัดปากน้ำ เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
พระเจดีย์กลางน้ำ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อปี พ.ศ. 2416 ช่วงพระยาศรสมุทร โภคชัยชิตสงคราม (เกตุ ยมจินดา) เป็นเจ้าเมืองระยองอยู่ในขณะนั้น ท่านเคยเข้ากรุงเทพ และผ่านไปยังจังหวัดสมุทรปราการ เห็นองค์พระสมุทรเจดีย์ หรือเจดีย์กลางน้ำตั้งอยู่บริเวณเกาะกลางน้ำ จึงจำลองแบบมาสร้างให้เป็นสัญลักษณ์สำหรับชาวเรือที่มาถึงระยอง โดยสร้างเป็นเจดีย์ไว้บนเกาะกลางน้ำ โอบล้อมด้วยพื้นที่ป่าชายเลนประมาณ 52 ไร่ ด้านหนึ่งของพระเจดีย์กลางน้ำติดลำน้ำระยอง ส่วนอีกด้านเป็นส่วนที่ติดกับป่าชายเลนหนาทึบ ปัจจุบันมีสะพานตัดข้ามจากฝั่งไปยังเกาะสะดวกมากขึ้น พระเจดีย์กลางน้ำ ทางกรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อ วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2544 ในพื้นที่ 13 ไร่ เป็นที่เคารพสักการะของชาวระยองเป็นอย่างมาก ในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสองของทุกปี จะมีงานประเพณี “งานห่มผ้าเจดีย์กลางน้ำ” มีขบวนแห่มาทางแม่น้ำ ในพิธีมีการใช้ผ้าสีแดง ความยาว 6 เมตร ห่มองค์เจดีย์ทรงเรือนทาสทรงระฆังคว่ำ เพื่อเป็นการสักการะ บูชาองค์พระเจดีย์ นอกจากนี้ยังมีการจัดแข่งเรือยาว และลอยกระทงประจำปี ซึ่งจัดสืบทอดกันมานานกว่า 60 ปี
ทุ่งโปรงทอง ระยอง แหล่งท่องเที่ยวริมปากน้ำแม่น้ำประแส
ทุ่งโปรงทอง คือบริเวณป่าชายเลนริมปากแม่น้ำประแส ซึ่งบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยต้นโปรงที่ขึ้นเรียงรายกันนับพันนับหมื่นต้น มองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา โดยเฉพาะยามเช้าตรู่และยามเย็นที่มีแสงพระอาทิตย์อ่อนๆ ฉาบทาบลงมาที่ทุ่งแห่งนี้ สะท้อนใบของต้นโปรงให้กลายเป็นสีเหลืองทองสวยงาม ที่นี่จึงได้ชื่อเรียกว่าทุ่งโปรงทอง โดยมีจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปในมุมกว้าง และยังมีทางเดินที่ทอดผ่านบริเวณป่าทุ่งโปรงทองระยะทางประมาณ 2.6 กิโลเมตร ลัดเลาะไปตามทางทำให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปกับทุ่งสีทองนี้อย่างใกล้ชิดถัดจากทุ่งโปรงทองเข้าไปด้านในจะเป็นป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ บรรยากาศร่มรื่น ป่าโกงกาง จะเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อมาจากป่าชายเลน ช่วงนี้ต้นโกงกางซึ่งมีความสูงพอสมควรจะปกคลุมทางเดินให้ร่มรื่น คล้ายกับเป็นอุโมงค์ต้นโกงกาง ทำให้ร่มรื่น ไม่ร้อน
ทุ่งโปรงทอง สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. ค่าเข้าชมฟรี ! ทั้งนี้อาจจะมีค่าบริการฝากรถ
ทั้งสองที่เป็นจุดเชคอิน จุดใหม่ของการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง มีคนนิยมมาถ่ายภาพกันมากทั้งในแบบรับปริญญา และพรีเวดดิ้งครับ