เรื่อง+ภาพ : ISO 9000…

บทความนี้มาจาก Camerart Magazine 169/2011 October

ลุยฝนถ่ายภาพ

เมื่อคุณต้องการถ่ายภาพยามหน้าฝน หรือ ไฟท์บังคับให้ต้องถ่ายภาพยามหน้าฝนอย่างเช่น เมื่อทีมถ่ายภาพของ CAMERART ต้องไปถ่ายภาพที่เพชรบูรณ์เมื่อเดือนที่ผ่านมา ที่ต้องฝ่าทั้งสายฝนกลางป่า ข้ามน้ำข้ามลำธารไปถ่ายภาพน้ำตก นั่งรถโฟร์วิล ลุยตากฝนกันเข้าไป เพียงเพื่อถ่ายภาพที่งามๆ มาฝาก การเตรียมตัวให้พร้อม คือ ความพร้อมที่จะ ถ่ายภาพลุยฝน

เสื้อฝนพร้อมลุยฝน

กระเป๋ากล้องต้องมี Sheet กันใน

เรื่องแรก อุปกรณ์จำเป็นที่จะต้องพกติดตัว เสื้อฝน ไงครับ เดี๋ยวนี้มีเสื้อฝนแบบพกพาห่อเล็กนิดเดียว หาซื้อได้ทั่วไปที่เซเว่น ก็มีขาย ถุงก๊อปแก๊บ ขอขนาดใหญ่หน่อย เพียงพอที่จะสวมใส่กล้องพร้อมเลนส์ได้ทันทีที่ต้องการ และจะให้ดีอยากถ่ายรูปกลางสายฝน ก็ควรมี ร่ม อีกซักคันติดกระเป๋า  เดี่ยวนี้มีร่มขนาดจิ๋วให้พกพาได้อีกด้วย

เรื่องที่สอง กระเป๋ากล้องควรเป็นกระเป๋ากล้องที่มี Sheet กันฝนมาให้ เพื่อที่จะใช้คลุมกระเป๋าได้ในยามฝนตก ที่แม้ตัวเปียกปอนแต่กระเป๋ายังปลอดภัยจากฝนได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า Lowepro หรือ กระเป๋าตราต้นไม้ของ Foto File หรือ กระเป๋า ของ KATA หลายต่อหลายรุ่นก็จะมี Sheet กันฝนอยู่ในกระเป๋า ดึงออกมาใช้ได้ทันทีที่ต้องการ  อย่าลืมว่ากล้องและเลนส์ของคุณที่ซื้อหามามีราคาสูงกว่ากระเป๋ากล้องมาก กระเป๋าจึงควรจะมีสมรรถนะที่สูงหน่อย แม้ราคาจะสูงขึ้นอีกนิดก็ตาม

มีร่มกันฝน พร้อมบัดดี้ช่วยกางร่มยิ่งดี

เดินลุยฝนในป่าทางไป น้ำตกวังตุ้ม

ลุยฝนถ่ายภาพ ด้วยกล้อง Canon EOS 5D mark II

เรื่องที่สาม ควรต้องรู้จักกับสมรรถนะของกล้องและเลนส์ที่คุณใช้ด้วยว่ามีสมรรถนะในการสู้ฝนได้ดีขนาดไหน ตั้งแต่ ตัวกล้องเป็นสิ่งที่คุณควรทราบ ก็คือ กล้องวันนี้ที่ผลิตออกมาให้ใช้งานนั้น มีระดับของกล้อง 2 รูปแบบด้วยกัน หนึ่งคือ กล้องสำหรับนักถ่ายภาพทั่วไป ซึ่งโดยปกติราคาก็จะไม่สูงมากนัก กล้องประเภทนี้ ไม่มีระบบกันละอองน้ำละอองฝุ่น จึงไม่เหมาะสำหรับการลุยถ่ายภาพยามฝนตก ซึ่งถ้าต้องการถ่ายภาพก็ควรมีร่มบังกันสายฝน แต่ก็ยังต้องทำงานถ่ายภาพด้วยความระมัดระวัง ถ้ามีบัดดี้ช่วยกางร่มให้จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ยังมีกล้องระดับสูงขึ้นมาอีกแน่นอนว่าราคาก็ย่อมสูงตามด้วย นั่นคือ กล้องที่มีระบบ Seal กล้องที่มีระบบนี้ ตามปุ่มต่างๆ บนตัวกล้อง ช่วงรอยต่อบนตัวกล้อง รวมทั้งแหวนปรับตั้งต่างๆ บนตัวกล้อง จะถูก Seal ด้วยยาง หรือวงแหวนยางไว้ด้านใต้ปุ่มบังคับหรือแหวนปรับตั้ง ซึ่งป้องกันการซึมของน้ำและฝุ่นละอองต่างๆ ได้เป็นอย่างดี กล้องประเภทนี้ สู้ฝนได้ดีในระดับหนึ่งเมื่อต้องการถ่ายภาพลุยฝน

ลุยฝนถ่ายภาพ ด้วยกล้อง Canon EOS 5D mark II

น้ำตกวังตุ้ม ถ่ายกลางสายฝน

แต่คงไม่ใช่แต่เพียงกล้องที่มีระบบ Seal เพียงอย่างเดียว เลนส์ก็เป็นอุปกรณ์ที่ควรระวังเช่นกัน ถ้าคุณต้องการถ่ายภาพลุยฝน เลนส์ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งเหมือนกันที่ควรเป็นเลนส์ที่มีระบบ Seal เช่นกัน ระบบ Seal ของเลนส์สังเกตได้ที่เม้าท์เลนส์จะมียางวงแหวนที่เมื่อใส่เลนส์เข้ากับกล้อง วงแหวนยางนี้จะช่วยกันละอองน้ำละอองฝุ่นได้เป็นอย่างดี ก็มีแต่อีกนั่นแหละ การถ่ายภาพลุยฝนนั้นการซูมเลนส์ก็เป็นสิ่งที่ต้องระวัง ถ้าเป็นซูมแบบหมุนก็ดูจะป้องกันได้ดีกว่า แต่ถ้าเป็นซูมแบบชักเข้าออก ก็ควรระวังไม่ซูมเอาน้ำเข้าไปด้วย ถ้าจะให้ดีก็ควรเป็นเลนส์ Fixed น่าจะปลอดภัยกว่า และพึงหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนเลนส์กลางสายฝน

ลุยฝนถ่ายภาพ เจอเข้าอย่างจังก็คราวที่ไปถ่ายภาพ น้ำตกวังตุ้ม และที่ ทุ่งนางพญา จังหวัดเพชรบูรณ์ กับ สวัสดีเมืองไทย เมื่อเดือนที่ผ่านมานี่เองครับ แต่ทุกท่านที่ไปก็พร้อมกับการลุยฝน ตั้งแต่เสื้อฝนกันน้ำ ร่มกันฝน กระเป๋ากล้องที่มี Sheet กันฝน การถ่ายภาพที่น้ำตกวังตุ้มนั้น เป็นเรื่องไม่ง่ายที่จะต้องถ่ายภาพกลางสายฝน  พร้อมทั้งขาตั้งกล้อง ช่วงเดินเข้าน้ำตกนั้นฝนพรำตลอดทางแต่ไม่หนัก หลายคนก็ยังคงควักกล้องคู่ใจ  ถ่ายกันอย่างเฮฮา  แต่พอถึงช่วงน้ำตก  กล้องส่วนใหญ่ถูกเก็บเข้ากระเป๋าเป็นแถว  มีหน่วยกล้าตายที่ยังคงปักหลักถ่ายภาพกลางสายฝนอยู่เพียง 4 ตัวเท่านั้น ที่เห็นก็คือ กล้อง Nikon D700 สองตัว Canon EOS 5D mark II หนึ่งตัวและ กล้อง OLYMPUS E5อีกหนึ่งตัว ที่กล้าปักหลักถ่ายภาพกลางสายฝนก็เนื่องมาจากกล้องทั้ง 4 ตัวนี้มีระบบ Seal  ผลของการถ่ายภาพกลับมา  กล้องทุกตัวอาการปกติ ก็มีบางท่านละครับแม้ว่ากล้องจะไม่ได้ Seal แต่ด้วยความระมัดระวังก็ยังอุตส่าห์ถ่ายภาพมาได้เหมือนกันโดยกล้องไม่เสียหาย 

สำหรับที่ทุ่งนาพญา แทบไม่ต้องพูดถึง ทุกคนนั่งรถฝ่าสายฝนเข้าไปตั้งแต่แรกแม้เมื่อถึงจุดถ่ายภาพ ฝนฟ้าก็ยังไม่ยอมเลิกรา ต้องกินข้าวกล่องกันกลางสายฝนพรำกันเลย แต่กระนั้น หลายคนก็ยังได้ภาพถ่ายมาฝากเหมือนกัน กล้องทุกตัวปลอดภัยดีครับ ไชโย….

ขึ้นรถลุยฝนไปถ่ายภาพ ทุ่งนาพญา

เมื่อกล้องตกน้ำ 

ประสบการณ์อีกอย่างหนึ่งที่อยากจะนำมาบอกเล่าต่อๆ กันไป นั่นคือ กล้องตกน้ำเรื่องของกล้องตกน้ำนั้น ผมเชื่อว่าหลายคนคงจะใจหายลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ถ้ากล้องตกน้ำเกือบจะร้อยทั้งร้อย ได้ฌาปนกิจแน่ๆ แต่ครั้งนี้ก็อยากจะบอกว่า อย่าเพิ่งหมดหวังไปเสียทีเดียว

กล้องเจ้ากรรมที่มีอันลงไปว่ายน้ำเล่นคราวนี้เป็นกล้อง Canon G10 ซึ่งคุณโอ๋ ใช้เป็นกล้องประจำตัวอยู่ ซึ่งทีมงานของคุณโอ๋ คราวนี้ต้องลุยทั้งน้ำและฝนเข้าไปถ่ายภาพน้ำตกตาดหมอก ที่เพชรบูรณ์เหมือนกัน การเข้าไปถ่ายภาพที่น้ำตกตาดหมอก ต้องเดินป่า ลุยน้ำข้ามลำธารกันเป็นว่าเล่น ทั้งฝนก็ตก โขดหินก็ลื่น ทั้งพยุงทั้งลากกันเข้าไปเพียงเพื่อถ่ายภาพน้ำตกตาดหมอกที่ลือกันว่าทั้งสูง ทั้งชัน และสวยงาม 

แต่ด้วยทางเข้าที่แสนทรหด คุณโอ๋คงเมื่อยขึ้นมาเลยพากล้องว่ายน้ำเล่นเสียเลยซึ่งถ้าโดยปกติแล้ววิญญาณกล้องก็คงบินไปสวรรค์แล้ว แต่ต้องบอกว่าโชคดี ที่มีคุณรินทร์ จาก Canon ไปด้วย เลยจัดการถอดแบตเตอรี่ ถอดการ์ดบันทึกภาพ สลัดน้ำให้แห้ง แล้วเก็บกล้อง นำส่งซ่อมทันทีที่กลับถึงกรุงเทพ

ทีม CAMERART ที่ ทุ่งนางพญา

น่าอัศจรรย์ กล้องฟื้นตัว และไม่ใช่ฟื้นตัวแบบพิการ เป็นการฟื้นตัวเต็ม 100 พร้อมใช้งานได้ดังเดิม เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่น่าพิจารณาสำหรับท่านที่นำกล้องไปว่ายน้ำให้คิด เรื่องแรกเลยรีบถอดแบตเตอรี่ ถอดการ์ดบันทึกภาพออก พยายามทำกล้องให้แห้ง และ นำส่งศูนย์บริการทันทีเท่าที่จะเป็นได้ 

โอกาสที่กล้องจะฟื้นคืนชีพนั้น เป็นไปได้ 2 สถาน ถ้ากล้องตกน้ำนั้นอยู่ในระหว่างที่ไม่ได้ใช้งานสวิทช์กล้องปิดอยู่ กล้องมีโอกาสฟื้นคืนชีพได้มากครับ แต่ถ้าสวิทช์กล้องเปิดอยู่ โอกาสที่จะเกิดความเสียหายในกล้องจากการลัดวงจรก็จะมีมากขึ้น ดังนั้นถ้ากล้องตกน้ำในระหว่างที่สวิทช์กล้องเปิดอยู่ให้รีบนำขึ้นจากน้ำแล้วรีบปิดสวิทช์ทันที เพื่อลดโอกาสการลัดวงจรไฟฟ้าของกล้อง อาจจะทำให้กล้องมีโอกาสที่จะซ่อมให้ปกติได้มากขึ้น

ถ่ายภาพบนรถกลางฝน ที่ทุ่งนางพญา

อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังในเรื่อง กล้องตกน้ำ เป็นอย่างมาก เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว ถ้ากล้องตกน้ำและมีการลัดวงจรเกิดขึ้น การซ่อมกล้องให้ฟื้น ด้วยการเปลี่ยนชิ้นส่วนอุปกรณ์ อาจจะไม่คุ้มการซ่อม การซื้อกล้องใหม่อาจจะคุ้มค่ากว่า

ไชโย ฝนหยุดตกแล้ว