เรื่อง+ภาพ : Sompoch Tangthai
บทความนี้มาจาก Camerart Magazine 212/2015 May
ในการถ่ายภาพ แสง นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ภาพถ่ายนั้นสวยงามก็ได้ หรือจะทำให้ภาพของคุณดูไม่น่าสนใจก็ได้ เรื่องของแสงที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพนั้นมีเนื้อหาอยู่มากมาย และในฉบับนี้เราจะมาพูดกันถึง แสงและความเปรียบต่าง (Light & Contrast) โดยเฉพาะในสภาพแสงที่มี Contrast ที่สูง (High Contrast)
แสง (Light) กับ contrast นั้นเป็นสิ่งที่มาคู่กัน ถ้าจะพูดให้เราเข้าใจง่ายขึ้นก็น่าจะบอกได้ว่าเป็นความแตกต่างกันของส่วนแสงและส่วนเงาในภาพเมื่อมีแสงก็ย่อมต้องเกิดเงาความแตกต่างตรงนี้บางครั้งเราก็เรียกว่า contrast ของแสง หรือ contrast ratio สำหรับภาพโดยส่วนใหญ่แล้ว การที่มี contrast ของแสงที่น้อยมีการลดหลั่นกันของน้ำหนักแสงเงา มักจะเป็นภาพที่ดีมีรายละเอียดครบถ้วน แต่ในบางครั้งภาพที่มี contrast ของแสงสูงนั้น ก็อาจะทำให้เกิดภาพที่น่าสนใจได้เช่นกัน
แสงที่มี Contrast สูงนั้น มักจะเกิดขึ้นได้หลายกรณี และส่งผลต่อภาพได้น่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น หลายคนเลือกที่จะไม่ถ่ายภาพในสภาพแสงแบบนี้ แต่ยังมีช่างภาพอีกหลายคนกับชื่นชอบในสภาพแสงเช่นนี้ เรามาพิจารณากันดูเป็นเรื่องๆ ไปว่ามีภาพแบบใด หรือลักษณะใดบ้างที่เราจะสร้างสรรค์ภาพในสภาพแสงที่มี contrast สูง (High Contrast lighting) ได้
Shape & Form
ภาพที่มี Contrast ของแสงที่จัดนั้น เราสามารถนำมาใช้ในการเน้นเส้นขอบ รูปร่าง หรือรูปทรงของสิ่งที่เราจะถ่ายได้ โดยการให้น้ำหนักของแสงเงาที่ตัดกันมากๆ เพื่อเน้นย้ำถึงลักษณะรูปร่าง-รูปทรงของสิ่งนั้น การเน้นรูปร่างด้วยแสงนั้น ทิศทางแสงเป็นเรื่องสำคัญ เช่น ทิศทางแสงที่มาจากด้านหลังจะช่วยทำให้เกิดเส้นขอบที่เราเรียกว่า lim light
สำหรับวัตถุที่เราจะถ่าย หรือสิ่งที่เราจะถ่ายนั้น ถ้ามีรูปทรงหรือลวดลาย หรือพื้นผิวที่น่าสนใจ มีรายละเอียด แสงแข็งที่ให้ Contrast สูงนั้นจะสามารถถ่ายทอดรายละเอียดต่างๆ ได้ชัดเจนและเน้นย้ำได้ดีกว่า
Dominance
แสงที่ทำให้เกิด Contrast ที่สูงมักจะเป็นแสงแข็ง ที่มักจะทำให้สิ่งที่ถูกแสงกระทบสว่างจ้า ดูขาดรายละเอียด แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราเลือกวัดแสงและชดเชยแสงให้ดี วัตถุที่เราจะถ่าย ได้รับแสงกระทบนั้นก็จะดูเด่นขึ้นมาได้ และในบางครั้งเราก็อาศัยแสงนี้ในการเน้นบางสิ่งบางอย่างในภาพ โดยเฉพาะกับภาพที่เราให้ฉากหลังเป็นสีเข้ม และให้แสงส่องกระทบที่วัตถุโดยตรง ภาพในลักษณะนี้ต้องระวังเรื่องของการวัดแสง โดยเฉพาะการเลือกระบบวัดแสงของกล้อง ระบบวัดแสงเฉพาะจุด หรือการชดเชยแสงให้ถูกต้องจะช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น
Time
ช่วงเวลาเป็นตัวกำหนดลักษณะของแสงและ Contrast ในหนึ่งวันถ้าเราสังเกตแสงเราจะพบว่ามีความแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาทั้งลักษณะของแสงและทิศทางแสง ทางที่ดีคือการนั่งสังเกตแสงที่ส่องมากระทบสิ่งที่เราจะถ่ายว่าช่วงเวลาไหนเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ได้สภาพแสงที่ตรงตามความต้องการที่สุด ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว ช่วงเวลาเช้าและเย็นจะเป็นช่วงเวลาที่เราได้เงาที่ยาว เพราะมุมของดวงอาทิตย์อยู่ต่ำ ส่วนในช่วงเวลากลางวัน เงาจะสั้นกว่า แต่ความสว่างของแสงก็มีมากกว่าด้วย
Mood & Emotion
แสงนั้นส่งผลต่ออารมณ์ในภาพแตกต่างกันออกไปตามสภาพและลักษณะของแสง แสงที่ Contrast สูง มักจะให้อารมณ์ภาพที่เข้มขรึม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการแบ่งส่วนของแสงและเงาในภาพ ถ้าเราเน้นให้เงาดำในภาพมาก ภาพก็จะให้อารมณ์มาทางลึกลับ น่ากลัว หรือถ้าเราเน้นที่ส่วนสว่างให้มีพื้นที่มากกว่าส่วนเงาในภาพ ก็จะได้ภาพในอีกอารมณ์หนึ่งเราจะคุ้นเคยกันดีกับภาพแบบนี้ในรูปแบบของภาพ Low-key ที่มักจะแสดงออกด้านอารมณ์ได้ดี
เราสามารถสร้างสรรค์ภาพ จากแสงที่มี Contrast สูงได้หลากหลายรูปแบบ สิ่งสำคัญก็คือการพิจารณาว่าภาพลักษณะใดหรือสิ่งที่เราจะถ่าย (Subject) นั้นมีความเหมาะสมกับสภาพแสงแบบใด ดังนั้นคงไม่มีวิธีไหนที่จะดีไปกว่าการทดลองถ่ายภาพของเราดูนะครับ การสังเกตและเฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของแสงในแต่ละวัน นับเป็นเคล็ดลับสำคัญที่จะทำให้เรา ‘อ่าน’ แสงต่างๆ ได้ เรื่องของแสงนั้นเป็นเรื่องที่นอกจากการเรียนรู้ในทฤษฏีแล้ว ต้องทดลองปฏิบัติด้วยตัวเองเพื่อความเข้าใจอีกด้วย
สำหรับในเรื่องของ Light & Contrast ในตอนนี้ หวังว่าคงทำให้คุณได้ไอเดียในการถ่ายภาพเพิ่มขึ้นบ้างนะครับ หลายครั้งเราเลือกสภาพแสงในการถ่ายรูปไม่ได้ แต่หลายครั้งเราเลือกที่จะรอคอย หรือเลือกที่จะถ่ายภาพในอีกรูปแบบหนึ่งที่เราคุ้นเคย เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ สำหรับเราเองได้นะครับ…