เรื่องและภาพ…
นพดล อาชาสันติสุข
สมโภช แตงไทย
ช่วงปลายปีที่ผ่านมา Canon ได้สร้างความฮือฮาในแวดวงนักถ่ายภาพเมื่อมีการเปิดตัวกล้อง Canon EOS R5 และ Canon EOS R6 ออกมาพร้อมกัน 2 รุ่น ด้วยสมรรถนะที่ถือว่าเป็นการปฏิวัติการพัฒนากล้องของ Canon เลยทีเดียว จนถึงวันนี้เจอะเจอกับนักถ่ายภาพ ก็ยังถามไถ่กันอยู่ตลอดเวลา…
ผมเพิ่งได้รับกล้อง Canon R5 และ R6 พร้อมเลนส์ Canon RF 24-105 mm f4 L IS พร้อมเลนส์ซุปเปอร์เทเลโฟโต้ Canon RF 600 mm. f11 IS STM และ RF 800 mm. F11 IS STM เพื่อทำการทดสอบเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเพื่อทำการทดสอบอยู่เป็นเวลาประมาณ 20 วัน ซึ่งก็เป็นจังหวะกับช่วง Covid 19 อาละวาดรอบสอง แต่ก็ใช้ช่วงเวลาดังกล่าวออกถ่ายภาพทดสอบในหลายๆ สถานที่ พร้อมกับ สมโภช แตงไทย เพื่อจะนำความคิดเห็นมาสรุปให้กับทุกท่านที่กำลังอยากทราบถึงสมรรถนะของกล้องรุ่นนี้ โดยขอยึดกล้อง Canon EOS R5 เป็นหลัก….
คุณลักษณะเด่นของ Canon EOS R5
ในความเห็นเมื่อได้จับกล้องลองใช้งาน ผมอยากจะบอกว่ากล้องรุ่นนี้น่าจะถือว่าเป็นการปฏิวัติการพัฒนากล้องของ Canon เลยทีเดียว ด้วยการพัฒนาจุดเด่นของการใช้งานระหว่างกล้อง D-SLR มารวมเข้ากับกล้อง Mirrorless ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในเวลานี้เข้าไว้ด้วยกัน เป็นการรวมเอาเทคโนโลยี ความรวดเร็ว และความคุ้นเคยในการใช้งานต่างๆ ของ D-SLR นำมาพัฒนาร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของกล้อง Mirrorless ที่ Canon พัฒนาใหม่รวมเข้ามาไว้ใน Canon EOS R5 และ R6
ตัวกล้อง ถือว่าเป็นกล้องระดับมืออาชีพ ผลิตด้วยวัสดุ Magnesium alloy ที่แข็งแกร่ง แต่มีน้ำหนักเบา พร้อมด้วยระบบ Seal กันฝุ่นและกันละอองน้ำ ทนทานต่อการใช้งานหนักได้ในทุกสภาพภูมิประเทศ
ภาพถ่ายด้วย Canon EOS R5, ให้สีสันที่สดในสมจริง มีความอิ่มของสีดีมาก, 1/2000 sec. f/11 ISO 800
เซ็นเซอร์ และ Image processor ใหม่ ต้องถือว่าเป็นครั้งแรกที่ Canon ได้ติดตั้งเซ็นเซอร์ Dual Pixel CMOS AF II ความละเอียดสูง 45 MP พร้อมด้วย DIGIC X Image Processor รุ่นใหม่ที่ใช้อยู่ใน EOS 1DX mark III นำมาบรรจุไว้ใน Canon R5 ที่เป็นกล้อง Mirrorless
ระบบ Autofocus พัฒนาใหม่ล่าสุด ส่วนนี้ถือว่าเป็น Most Advance หรือเป็นส่วนที่ก้าวหน้ามากที่สุดที่ Canon พัฒนามาบรรจุไว้ใน Canon EOS R5 ด้วยศักยภาพของ Dual Pixel CMOS AF II บวกเข้ากับ โปรเซสเซอร์ DIGIC X ที่ทรงพลัง ทำให้ระบบ AF ของ Canon EOS R5 เป็นระบบ Phase Detection ที่ก้าวหน้าสามารถโฟกัสได้เต็มพื้นที่ 100% ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน สำหรับภาพนิ่งมีจุดโฟกัสมากถึง 5940 จุด มีพื้นที่โฟกัสมากถึง 1053 พื้นที่ และสำหรับการภาพแบบวิดีโอ มีจุดโฟกัสเลือกได้ถึง 4500 จุด และมีพื้นที่โฟกัสได้มากถึง 819 พื้นที่
ระบบ AF ปรับตั้งได้สองรูปแบบ คือ แบบ One Shot และ Servo พร้อมระบบ Tracking ติดตามวัตถุเช่นเดียวกับที่ใช้อยู่ใน EOS 5D mark IV ที่ก้าวหน้ากว่าก็คือ มีระบบตรวจจับติดตาม ศีรษะ ใบหน้า และดวงตา [Eye Tracking] ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าเป็นตามนุษย์ หรือ ตาสัตว์ ได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ เป็นแบบเดียวกับที่ใช้อยู่ใน Canon EOS 1DX mark III ซึ่งถ้าเปิดใน DPP [Digital Photo Professional software] จะแสดงจุดโฟกัสให้เห็นได้
ภาพถ่ายด้วย Canon EOS R5, ให้สีสันที่สดในสมจริง มีความอิ่มของสีดีมาก, 1/2000 sec. f/11 ISO 800
ระบบกันสั่น 5 แกนในตัวกล้อง ระบบ IBIS [In Body Image Stabilizer] เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ Canon บรรจุไว้ใน EOS R5 เป็นแบบลดการสั่นแบบ 5 แกน ที่สามารถทำงานร่วมกับระบบลดการสั่นในตัวเลนส์ สามารถลดการสั่นไหวของการถือถ่ายภาพได้สูงสุดถึง 8 สต็อป ด้วยการประมวลผลร่วมกันของ DIGIC X processor และ Gyro sensor บนตัวกล้อง กับ Processor ในตัวเลนส์ของ RF mount ใหม่ แบบ 12 pin ที่ต่างไปจาก EF mount ของเดิม ช่วยให้การถ่ายภาพง่ายขึ้นโดยไม่สั่นไหว
A DIGIC X
B ชุดกันสั่นในตัวเลนส์
C Microprocessor ในตัวเลนส์
D Gyro Sensor ในตัวเลนส์
E Sensor รับภาพ
F Gyro Sensor ในตัวเลนส์
G Sensor ตรวจจับความเร็ว
ภาพถ่ายด้วย Canon EOS R5, ภาพถ่ายไม่มีการสั่นไหว, 1/8 sec. f/8 ISO 1600
ถ่ายภาพต่อเนื่อง 20 ภาพต่อวินาที Canon EOS R5 สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ด้วยความเร็วสูงสุด 20 ภาพต่อวินาที ด้วยระบบ Electronic shutter และถ่ายภาพด้วยความเร็ว 12 ภาพต่อวินาที เมื่อการทำงานของชัตเตอร์เป็นแบบ Mechanic shutter กล้องจะทำการถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยการล็อคทั้งระบบ AF และค่าแสง (AE) ไปพร้อมกัน
ความไวแสงในการถ่ายภาพ ใน Canon EOS R5 สามารถตั้งความไวแสงได้ตั้งแต่ ISO 100-51200 (สามารถปรับลดได้ถึง 50 และปรับเร่งได้สูงถึง 102400) สามารถโฟกัสภาพได้ที่สภาพแสงน้อยถึง EV -6
ชัตเตอร์ และความทนทาน ชัตเตอร์ที่ติดตั้งมากับกล้อง EOS R5 มีความเร็วให้ใช้งานสำหรับภาพนิ่ง ตั้งแต่ความไวชัตเตอร์ 30 วินาที ถึง 1/8000 วินาที และชัตเตอร์ B สำหรับการถ่ายภาพวิดีโอ ความเร็วชัตเตอร์มีให้ใช้ตั้งแต่ 1/8 วินาที ถึง 1/8000 วินาที
ชัตเตอร์ของ EOS R5 มีความทนทานสูง ทนต่อการใช้งานได้ถึง 500,000 ครั้ง ที่พิเศษกว่ากล้อง Mirrorless อื่นๆ ก็คือ ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้กล้องปิดม่านชัตเตอร์ได้เมื่อปิดการทำงานของกล้องเพื่อเก็บกล้อง หรือ เพื่อถอดเปลี่ยนเลนส์ เพื่อป้องกันฝุ่นได้ด้วย หรือ จะตั้งเปิดไว้เพื่อเก็บเสียงเวลาเปิดกล้องเมื่อใช้ในสถานที่ที่ต้องการเก็บเสียง
ช่องมองภาพ OLED และจอหลังแบบ LCD Canon EOS R5 ติดตั้งช่องมองภาพแบบ OLED ที่มีความละเอียดสูงถึง 5.76 ล้านจุด แสดงภาพ 119.88 ภาพต่อวินาที ดูได้สบายตาสมจริง ส่วนจอ LCD แสดงภาพด้านหลังกล้องเป็นแบบ Touch screen พับข้างปรับองศาได้ ขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 2.1 ล้านจุด
ระบบวิดีโอ ระบบวิดีโอของ Canon EOS R5 เป็นระบบวิดีโอแบบ 8K DCI และ 4K DCI ซึ่งเป็น 8K และ 4K แท้ๆ ในระบบ 8K DCI (จะให้ความละเอียดสูงกว่าแบบ 4K ถึง 4 เท่า) สามารถใช้งานเป็นภาพนิ่งความละเอียด 35.4 MP ได้อีกด้วย ซึ่งเทียบเท่ากับการถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็ว 30 ภาพต่อวินาทีเลยทีเดียว
สำหรับการถ่ายภาพวิดีโอที่ 4K สามารถตั้งถ่ายภาพที่ 120/100 ภาพต่อวินาที เพื่อแสดงวิดีโอแบบ Slow Motion [NTSC/PAL] ได้อีกด้วย ระบบวิดีโอของกล้องรุ่นนี้มาพร้อม Canon Log ที่เพิ่ม Dynamic range ของภาพได้ถึง 12 เท่า ในขั้นตอนการปรับภาพ ทำให้การควบคุมแสง เงา ความเข้มขนของสี และไฮไลท์ ได้มากยิ่งขึ้น
ช่องใส่การ์ด 2 ช่อง สำหรับการ์ดแบบ SD 1 ช่อง รองรับการ์ด SD / SDHC และ SDXG [UHS II] อีกช่องหนึ่งสำหรับใส่การ์ด CF express [Type B] หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงใช้การ์ดได้ 2 แบบ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะว่า Canon ได้เผื่อสำหรับการถ่ายภาพวิดีโอระดับ 8K DCI ที่ต้องการการ์ดความไวสูง ซึ่งการ์ด CF express รองรับการทำงานได้ดีกว่า
ระบบ Wi-Fi Canon EOS R5 ติดตั้ง Wi-Fi with Bluetooth ขนาด 2.4 / 5 GHz พร้อมใช้งาน และยังรองรับ Wireless Lan 5 GHz เพื่อการโอนถ่ายข้อมูลได้อย่างรวดเร็งไปยังคอมพิวเตอร์หรือ Smart Device อื่นๆ รวมถึงการส่งข้อมูลไปยัง Server FPT ได้ด้วย
แบตเตอรี่ใหม่ เพื่อรองรับกับการใช้งาน EOS R5 ใช้งานกับแบตเตอรี่ใหม่ LP-E6NH ความจุ 2130 MAh ถ่ายภาพได้ 320 ภาพ ตามมาตรฐาน CIPA [Using EVF]
ขนาด 138 x 97.5 x 88 มม.
น้ำหนัก 738 กรัม
สัมผัสกับการใช้งาน
อย่างที่ได้กล่าวไว้แต่แรกแล้วว่า Canon ได้พัฒนา Canon EOS R5 ด้วยการนำจุดเด่นของกล้อง D-SLR มาผสมประสานเข้ากับกล้อง Mirrorless เพื่อให้ผู้ที่เคยใช้กล้อง D-SLR ของ Canon มาแล้ว สามารถใช้งานได้อย่างคุ้นเคยทันทีที่จับกล้อง ตั้งแต่กริปที่จับแล้วสบายคุ้นเคยเช่นเดียวกับกล้อง EOS 5D mark IV ที่เคยประทับใจกันมาก่อน แต่ขนาดและน้ำหนัก เล็ก เบาสบายกว่ากัน การวางตำแหน่งปุ่มและแหวนปรับคุ้นเคยกันได้ง่ายสำหรับแฟนๆ ของ Canon
แป้นปรับตั้งหลักบนตัวกล้อง 3 แหวน…2 แหวนอยู่ด้านหน้าและหลังด้านบนของกล้อง อีก 1 แป้นปรับตั้งอยู่ด้านหลังของกล้อง แต่ที่จะต่างไปจากกล้อง D-SLR ก็คือ ถ้าใช้กับเลนส์ RF ซึ่งมีแหวนปรับตั้งที่ตัวเลนส์อีก 1 วงแหวน สามารถปรับตั้งให้เป็นวงแหวนปรับตั้งหลักได้อีก 1 วงแหวนจากเมนูในกล้อง นั่นหมายความว่า จะมีวงแหวนหลักสำหรับการปรับตั้งใช้งานได้ทันทีถึง 4 วงแหวน เพื่อการใช้งานปรับตั้ง ขนาดรูรับแสง / ความไวชัตเตอร์ / ความไวแสง ISO และการชดเชยแสง ได้อย่างรวดเร็ว ง่ายต่อการควบคุมเลยทีเดียว ต้องขอบคุณ จำนวน Pin สำหรับการเชื่อมต่อระหว่างกล้องและเลนส์ ที่ Canon ได้พัฒนาเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว
จุดเด่นอีกส่วนหนึ่งนั่นคือ Joy Stick ติดตั้งไว้ที่ส่วนบนหลังกล้อง ใกล้นิ้วหัวแม่มือ ทำให้ใช้งานในการควบคุมจุดโฟกัสได้อย่างทันใจโดยไม่จำเป็นต้องใช้ Touch pad
ปุ่มเลือก Mode อยู่ด้านบนของกล้องพร้อมจอ LCD ขนาดเล็กแสดงข้อมูลการปรับตั้ง
เมนู เป็นอีกส่วนหนึ่งที่คุ้นเคยมากโดยเฉพาะแฟนๆ Canon ที่ยังคงรูปแบบคล้ายแบบเดิม แต่มีการปรับตั้งได้มากกว่าเดิม สำหรับผู้ใช้จะเป็นประโยชน์มากสำหรับปรับใช้งานตามความถนัดได้เลย ที่แน่ๆ คุ้นเคยเลยก็คือ ยังมี ปุ่ม Q สำหรับการปรับตั้งอย่างรวดเร็วไว้ให้ใช้งาน
ทดสอบใช้งาน
ทดสอบการเก็บรายละเอียดของเซ็นเซอร์ จากการถ่ายภาพทดสอบเพื่อดูการเก็บรายละเอียดในภาพถ่ายและขยายภาพถ่ายพิจารณา พบว่า กล้อง Canon EOS R5 รุ่นนี้ที่มีความละเอียดสูงถึง 45 ล้านพิกเซล สามารถเก็บความละเอียดได้สูงมาก แม้จะ Crop ภาพนำมาใช้งานภาพก็ยังมีความละเอียดที่ดีมาก
ภาพถ่ายด้วย Canon EOS R5, เมื่อถ่ายนกใกล้ๆ จะเห็นขนของนกชัดเจน, 1/1000 sec. f/11 ISO 2000
ภาพถ่ายด้วย Canon EOS R5, เมื่อขยายภาพดูจะเห็นขนของนกชัดเจน, 1/2000 sec. f/11 ISO 640
ภาพถ่ายด้วย Canon EOS R5, เมื่อขยายภาพดูเห็นลายของดวงจันทร์, 1/125 sec. f/11 ISO 640
ทดสอบสีของภาพถ่าย ในเรื่องสีสันของภาพถ่าย จากการทดสอบพบว่า กล้องรุ่นนี้ ให้สีสันที่สดในสมจริง มีความอิ่มของสีดีมาก แม้จะถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย ก็ยังให้สีสันที่สดใสถูกต้อง
ชาร์จทดสอบสีสันของกล้อง Canon EOS R5
ภาพถ่ายด้วย Canon EOS R5, ให้สีสันที่สดในสมจริง มีความอิ่มของสีดีมาก, 1/2000 sec. f/11 ISO 1000
ภาพถ่ายด้วย Canon EOS R5, ให้สีสันที่สดในสมจริง มีความอิ่มของสีดีมาก, 1/2000 sec. f/11 ISO 2000
ภาพถ่ายด้วย Canon EOS R5, ให้สีสันที่สดในสมจริง มีความอิ่มของสีดีมาก, 1/2000 sec. f/11 ISO 1600
ทดสอบ ISO ในการถ่ายทดสอบที่ความไวแสงต่างๆ ตั้งแต่ ISO 100 ถึง ISO 102400 เป็น RAW file แปลงไฟล์เป็น JPEG โดยไม่มีการลด Noise และไม่ลด Noise เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพ เมื่อทำการขยายภาพเพื่อดูสัญญาณรบกวน [Noise] ในภาพพบว่า
ภาพถ่ายที่ ISO 100-800 พบว่าภาพที่ได้ไม่มี Noise ปรากฏให้เห็น ภาพถ่ายมีความคมชัดและรายละเอียดดีมาก
ภาพถ่ายที่ ISO 1600-6400 พบว่าภาพที่ได้มี Noise ปรากฏให้เห็นบ้างเล็กน้อยแต่ต่ำมากในไฟล์ภาพที่ไม่มีปรับการลด Noise แต่ในไฟล์ภาพที่มีการลด Noise แก้แล้วไม่มีให้เห็น ภาพถ่ายยังมีสีสัน ความคมชัด และเก็บรายละเอียดได้ดีน่าพอใจ
ภาพถ่ายที่ ISO 12800-25600 พบว่าภาพที่ได้มี Noise ปรากฏให้เห็นบ้างในไฟล์ภาพที่ไม่มีการปรับลด Noise แต่ในไฟล์ภาพที่ปรับลดแล้วยังปรากฏมีบ้างเล็กน้อย คุณภาพของภาพถ่ายยังใช้งานได้ดี สีสันสดใส ความคมชัด และการเก็บรายละเอียดลดลง
ภาพถ่ายที่ ISO 51200-102400 พบว่าภาพที่ได้มี Noise ปรากฏมากขึ้นในไฟล์ภาพที่ไม่มีการลด Noise แม้เมื่อลด Noise แล้ว คุณภาพของภาพถ่ายถือว่าพอใช้งานได้ สีสันคงที่ความคมชัดและการเก็บรายละเอียดในภาพลดลง ใช้ในยามจำเป็นดีกว่า
จากการทดสอบนอกเหนือจาก RAW file แล้ว ไฟล์ภาพ JPEG ที่ได้จากกล้องโดยตรงมี คุณภาพดีมาก Noise ต่ำมากแม้จะถ่ายภาพที่ขนาดความไวแสงสูง น่าใช้งานสำหรับงานทั่วไปได้ทันที
ภาพถ่ายที่ ISO 16000 ด้วย Canon EOS R5, 1/125 sec. f/8
ภาพถ่ายที่ ISO 200 ด้วย Canon EOS R5, 1/8000 sec. f/11
ทดสอบ DR ในการทดสอบเกี่ยวกับ Dynamic Range หรือ DR ของกล้อง Canon EOS R5 มีช่วงของ DR ที่กว้างมาก โดยได้ทำการทดลองถ่ายภาพเปรียบเทียบช่วงแสงตั้งแต่ค่าแสงที่พอดี จนถึงค่าแสงที่ -5EV แล้วทำการปรับความสว่างของภาพถ่ายพบว่า ภาพถ่ายแม้ถ่ายภาพมาติด under ถึง 5 สต็อป ก็ยังให้รายละเอียดและสีสันที่สดใสใช้งานได้ดีเลยทีเดียว ซึ่งในสภาพความเป็นจริงในการถ่ายภาพที่มีค่าแสงแตกต่างกันในภาพเดียวกัน ก็สามารถเก็บรายละเอียดได้กว้างมากขึ้นทั้งในส่วนมืดและส่วนสว่าง
ภาพถ่ายด้วย Canon EOS R5, 1/2000 sec. f/11 ISO 500
ภาพถ่ายด้วย Canon EOS R5, 1/2000 sec. f/11 ISO 1250
ทดสอบระบบโฟกัส ตาสัตว์ ในการทดสอบระบบ Eye Detection ของกล้องรุ่นนี้ ด้วยการถ่ายภาพนก ซึ่งพบว่า ภาพที่นกที่ได้โฟกัสสามารถจับดวงตาได้อย่างแม่นยำ คมชัด
Eye Detection ของกล้อง Canon EOS R5, ถ่ายภาพนกที่ได้โฟกัสสามารถจับดวงตาได้อย่างแม่นยำ คมชัด, 1/2000 sec. f/11 ISO 2500
Eye Detection ของกล้อง Canon EOS R5, ถ่ายภาพนกที่ได้โฟกัสสามารถจับดวงตาได้อย่างแม่นยำ คมชัด, 1/2000 sec. f/11 ISO 6400
ทดสอบการถ่ายภาพต่อเนื่อง Canon EOS R5 สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ด้วยความเร็ว 20 ภาพต่อวินาที ได้ลองทดสอบการถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยการถ่ายภาพนกบินติดต่อกัน พบว่า ในการถ่ายภาพต่อเนื่อง ระบบโฟกัสทำการโฟกัสได้รวดเร็วมากเกาะติด Tracking ตามได้อย่างรวดเร็ว ได้ภาพที่คมชัดใช้งานได้ดี ที่ความเร็ว 20 ภาพต่อวินาที สามารถจับการบิน การเคลื่อนที่ได้อย่างแม่นยำ Buffer ของกล้องดีมาก ยิ่งถ้าใช้การ์ดที่มีความเร็วสูง จะถ่ายต่อเนื่องได้สบายใจเลยทีเดียว
Canon EOS R5 & Canon EOS R6
เมื่อพูดถึงกล้อง Canon EOS R5 แล้ว ก็ขอกล่าวถึงกล้อง Canon EOS R6 ไว้สักนิดหน่อยเนื่องจากเป็นกล้องที่ได้ เปิดตัวมาพร้อมกัน หลายท่านก็คงอยากรู้ว่าต่างกันอย่างไร
Canon EOS R6 ตัวกล้องทำจากแมกนีเซียมอัลลอย ส่วนภายนอกเป็นโพลีคาร์บอเนตที่แข็งแรงมีน้ำหนักเบา ปุ่มปรับตั้งของกล้องส่วนใหญ่คล้ายคลึงกับ EOS R5 แต่ใน EOS R6 ไม่มีจอแสดงระบบถ่ายภาพด้านบนเหมือน EOS R5 จะเป็นแป้นปรับตั้งระบบถ่ายภาพแทน
Sensor ของ EOS R6 เป็นเซ็นเซอร์ Full frame ที่มีความละเอียด 20.1 MP ต่ำกว่า EOS R5 ที่มีความละเอียดสูง 45 MP แต่มีจุดโฟกัส 6072 จุดที่มากกว่า EOS R5
Canon EOS R6 ปรับตั้งความไวแสงได้ ISO 100-102400
ความละเอียดช่องมองภาพของ Canon EOS R6 3.69 ล้านจุด ต่ำกว่าของ EOS R5
จอแสดงภาพหลังกล้อง ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.62 ล้านจุด ต่ำกว่าของ EOS R5
ระบบถ่ายภาพวิดีโอของ Canon EOS R6 แบบ 4K ไม่มี 8K อย่าง EOS R5
ช่องใส่การ์ด 2 ช่อง สำหรับ SD การ์ดอย่างเดียว ไม่มีช่องสำหรับ CF express เหมือน EOS R5
คุณสมบัติอื่นๆ เหมือนหรือคล้ายคลึงกับของ EOS R5
บทสรุป
ผมถือว่า Canon EOS R5 เป็นการปฏิวัติครั้งสำคัญของ Canon เลยทีเดียว ที่ใช้ความชำนาญในฐานะของผู้นำการผลิตกล้องถ่ายภาพมายาวนาน ที่นำคุณลักษณะเด่นๆ ของกล้อง D-SLR นำมาพัฒนาร่วมไว้ในกล้อง EOS R5 ที่เป็นกล้อง Mirrorless ให้เป็นกล้องสมรรถนะสูง สำหรับนักถ่ายภาพมืออาชีพ และนักถ่ายภาพที่ชมชอบการถ่ายภาพ
โดยปกติรหัสเลข 5 ของ Canon จะเป็นกล้องที่เหมาะสำหรับนักถ่ายภาพมืออาชีพ จนถึงนักถ่ายภาพที่จริงจัง ชมชอบการถ่ายภาพ และต้องการกล้องถ่ายคุณภาพสูง ทนทานต่อการใช้งาน อย่างเช่น Canon EOS 5D mark IV ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง
Canon EOS R5 คือ กล้อง Mirrorless Fullframe ที่ Canon เปิดตัวเข้าสู่ตลาดในมาตรฐานการผลิตระดับเดียวกับ Canon EOS 5D mark IV
ราคาที่ขายในเมืองไทย เฉพาะ Body Canon EOS R5 134,900.- Canon EOS R6 85,900.-
ขอขอบคุณ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด
ที่เอื้อเฟื้อกล้องและเลนส์ เพื่อทำการทดสอบใช้งานในครั้งนี้