เรื่อง+ภาพ : นพดล อาชาสันติสุข

บทความนี้มาจาก Camerart Magazine 256/2019 January

แฟนๆ Canon ได้เฮ…กันอีกครั้งเมื่อ Canon เปิดตัวกล้อง Canon EOS R กล้อง Mirrorless full frame ตัวแรกเข้าสู่ตลาดเมื่อไม่นานมานี้ แน่นอนครับเมื่อเป็นกล้องรุ่นใหม่ล่าสุด Canon EOS R  จึงถือว่าเป็น นวัตกรรมใหม่อีกชิ้นหนึ่ง ที่ Canon ได้นำเทคโนโลยีใหม่สุดมาบรรจุไว้ในกล้องรุ่นนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักถ่ายภาพทั้งในด้านคุณภาพ และการใช้งาน

คุณลักษณะเด่น

Canon EOS R กล้อง Mirrorless full frame รุ่นแรกของ Canon ติดตั้งเซ็นเซอร์แบบ Dual Pixel CMOS ขนาด 24×36 มม. ความละเอียด 30 Megapixel แบบเดียวกับที่ใช้อยู่ใน Canon EOS 5 Mark IV แต่ได้รับการออกแบบใหม่สำหรับรองรับเลนส์ใน RF Series พร้อมด้วย Image processor DIGIC 8 รุ่นล่าสุด

เม้าท์เลนส์ใหม่ RF Mount ขนาด 54 มม. แม้จะขนาดเท่าเดิม แต่ที่มีระยะห่างจากเลนส์ถึงเซ็นเซอร์เพียง 20 มม. ใกล้กว่ากล้อง D-SLR ที่มีระยะห่างถึง 44 มม. ด้วยขนาดและระยะห่างที่สั้นลง ทำให้สามารถพัฒนาเลนส์ที่มีความสว่างมากยิ่งขึ้นมีมุมกว้างมากขึ้น และทำให้เลนส์มีขนาดเล็กลง ที่สำคัญก็คือ RF Mount ใหม่ มาพร้อมกับ 12 Pin สำหรับการเชื่อมต่อระหว่างกล้องและเลนส์ ทำให้การส่งผ่านข้อมูลระหว่างกล้องและเลนส์ทำได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

Canon EOS R สามารถตั้งความไวแสงได้ตั้งแต่ ISO 100-40000 ปรับเร่งได้เทียบเท่า ISO 50-102400 ถ่ายภาพต่อเนื่องสำหรับ One shot ได้ 8 ภาพต่อวินาที ตั้งแบบ Servo ได้ 5 ภาพต่อวินาที และถ้าตั้งให้โฟกัสติดตามวัตถุ ได้ 3 ภาพต่อวินาที  

ช่องมองภาพของ Canon EOS R เป็นแบบ OLED ความละเอียดสูง 3.69 ล้านพิกเซล อัตราขยาย 0.76x 

จอแสดงข้อมูลของ Canon EOS R พิเศษต่างจากกล้อง Mirrorless ทั่วไป คือ มีจอ LCD อยู่ 2 ขนาด จอแสดงข้อมูลขนาดเล็กอยู่ด้านบนของกล้องและจอแสดงภาพ และข้อมูลด้านหลังกล้อง ขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล แบบพับปรับองศาได้ ระบบ Touch screen 

จุดเด่นสำคัญอีกประการหนึ่งของ Canon EOS R ก็คือ จุดโฟกัสที่มีมากถึง 5655 จุด วางในแนวตั้ง 65 ตำแหน่ง วางในแนวนอน 87 ตำแหน่ง ครอบคลุมพื้นที่ ในแนวนอนได้ถึง 88% และแนวตั้งได้ 100% เกือบเต็มพื้นที่ของภาพ มั่นใจได้ว่า แม้วัตถุจะอยู่ในตำแหน่งไหนของเซ็นเซอร์ ก็ยังอยู่ในพื้นที่โฟกัสของกล้องเลยทีเดียว

Canon EOS R ตั้งการถ่ายภาพได้ทั้ง 14 bit CRW และ Compress C-RAW

ระบบวิดีโอของ Canon EOS R เป็นแบบ 4K 29.97 fps และ แบบ Full HD 60p

Canon EOS R ติดตั้งระบบ Wi-Fi และ Bluetooth มาพร้อมให้ใช้งาน สามารถโหลดภาพเข้า Smartphone ได้แม้ปิดกล้อง 

ที่พิเศษ และ น่าใช้มากๆ ก็คือ M-Fn Bar ที่หลังกล้อง รวมทั้ง การ Custom ปุ่มใช้งานต่างๆ ที่ทำให้การถ่ายภาพง่ายขึ้นทันที แต่หลายท่านยังไม่ได้ลองใช้งาน…

 

ทดสอบใช้งาน

ผมได้ลองใช้งานกับกล้อง Canon EOS R พร้อมเลนส์ RF 24-105 mm. F4 L USM อยู่นานพอควรเลยทีเดียว สัมผัสแรกของกล้อง เป็นความรู้สึกที่คุ้นเคยกับการจับถือ ให้อารมณ์แบบเดียวกับกล้อง D-SLR เลยก็ว่าได้ แต่น้ำหนักกล้องเบาลงอย่างมาก 

น้ำหนักของกล้อง 660 กรัม รวมแบตเตอรี่ ต้องถือว่า เบากว่า 5D Mark IV ที่มีน้ำหนักถึง 900 กรัม มากเลยทีเดียว ตัวกล้อง Seal กันละอองน้ำและฝุ่นทนต่อการใช้งานในทุกสภาพดินฟ้าอากาศ 

ที่น่าสนใจก็คือ เมื่อปิดกล้อง หรือถอดเลนส์ ม่านชัตเตอร์หน้าเซ็นเซอร์จะปิด ช่วยลดการเกาะของฝุ่นหน้าเซ็นเซอร์เมื่อมีการถอดเปลี่ยนเลนส์ไปได้มากทีเดียว

การทดสอบใช้งานนั้น ผมทดสอบตั้งแต่การปรับตั้งค่าของกล้องเพื่อการใช้งาน (ซึ่งหลายท่านอาจจะมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย) ทดสอบระบบโฟกัสภาพ ความแม่นยำของการโฟกัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโฟกัสติดตามวัตถุ และทดสอบคุณภาพของไฟล์ภาพ 

 

สิ่งที่ชอบใน Canon EOS R

12 Pin ใน Canon EOS R จากกล้อง D-SLR ของ Canon มี Pin 10 Pin ในการเชื่อมต่อสัญญาณระหว่างกล้องและเลนส์ในตระกูล EF ได้รับการพัฒนาเพิ่มเป็น 12 Pin ใน EOS R และ เลนส์ในตระกูล RF ที่มีจุดเชื่อมต่อกับกล้องเป็นแบบ 12 จุด ทำให้กล้องกับเลนส์มีความสัมพันธ์กันมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การส่งผ่านข้อมูลระหว่างกล้องและเลนส์เป็นไปอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ยังทำให้สามารถเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานบนตัวเลนส์ได้มากยิ่งขึ้น

จะพบได้ว่า เลนส์ในตระกูล RF ได้เพิ่มแหวนฟังก์ชั่น ที่สามารถตั้งค่าใน Custom ให้ใช้งานได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น ตั้งเป็นแหวนสำหรับปรับตั้งความไวแสง ISO หรือ ตั้งเป็นแหวนชดเชยแสง ที่สามารถใช้งานได้ทันทีที่ต้องการโดยไม่ต้องกลับไปปรับตั้งจากเมนู หรือ ปุ่มหมุนอื่นๆ ให้ยุ่งยากอีกต่อไป

ข้อน่าสังเกตประการหนึ่งก็คือ ด้วยสมรรถนะการส่งผ่านข้อมูลจาก 12 Pin ที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เมื่อทำงานร่วมกับ DIGIC 8 แล้ว พบว่า การประมวลผลแบบ Real time ของเลนส์ และ Gyro เปรียบเทียบกับการสั่นซึ่งทำให้ภาพเบรอ สามารถทำงานได้รวดเร็วและชดเชยการสั่นได้ดีมากยิ่งขึ้น

Fv Mode ด้วยความสามารถของ 12 Pin ที่เพิ่มขึ้น ทำให้สมรรถนะการส่งผ่านข้อมูลที่รวดเร็วขึ้น ทำให้ Canon ได้พัฒนาระบบถ่ายภาพอัตโนมัติแบบ Fv Mode เพิ่มความสะดวกในการถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็ว ที่ผู้ถ่าย สามารถควบคุมการถ่ายภาพได้ทั้ง ความไวชัตเตอร์ และ รูรับแสง ได้ในเวลาเดียวกัน ยิ่งถ้าร่วมกับแหวนฟังก์ชั่นที่หน้าเลนส์ถ้าตั้งเป็นการปรับ ISO ด้วยแล้ว ทำให้การถ่ายภาพง่ายในทุกสถานการณ์เลยทีเดียว

M-Fn Bar เป็นฟังก์ชั่นใหม่ที่ Canon ติดตั้งไว้บนกล้อง Canon EOS R ซึ่งสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ใน Menu Customize M-Fn Bar เมื่อตั้งค่าให้เปิดทำงาน สามารถตั้งการทำงานได้ทั้งการ เลื่อนจุดโฟกัสโดยไม่ต้องละสายตาจากช่องมองภาพ และยังสามารถเลื่อนภาพได้ใน mode แสดงภาพถ่าย 

ชีวิตง่ายทันที ปุ่มปรับตั้งต่างๆ ตั้งค่าใช้งานได้ตามใจนึก การปรับตั้งค่าการถ่ายภาพ เป็นสิ่งหนึ่งที่นักถ่ายภาพต้องใช้งานในการปรับตั้งค่าต่างๆ ส่วนใหญ่ก็คือต้องละจากการถ่ายภาพมากดปุ่มเพื่อหมุนเลือกค่าที่ต้องการ แม้การปรับตั้งอย่างรวดเร็วจะมีปุ่มลัดอย่างเช่น ปุ่ม [Q] ก็ยังต้องมาปรับเลื่อนตั้งค่าไล่ตามลำดับ แต่ผมอยากจะบอกว่า Canon EOS R ทำให้ชีวิตง่ายทันที คุณสามารถเลือกตั้งค่าการใช้งานปุ่มต่างๆ ได้ตามใจนึกกดเรียกใช้ได้ เห็นในช่องมองภาพเลย ปรับได้ทันทีที่ต้องการ

หลายท่านอาจจะบอกว่า การตั้งค่าปุ่มใช้งานก็เคยมีมาแล้วแต่ Canon EOS R ในวันนี้สามารถทำได้มากกว่า เพียงเข้าไปตั้งค่าใน เมนู Custom ซึ่งสามารถตั้ง Custom ได้ทั้ง ปุ่มบังคับต่างๆ แหวน Dial และ M-Fn Bar ซึ่งสามารถเลือกใช้งานได้กว่า 30-39 รายการ หลายท่านอาจจะถามว่า ยุ่งยากไหม…  ตอบได้เลยครับว่า ไม่ยุ่งยากเลย เข้าใจง่าย ด้วยกราฟฟิคที่มีมาให้ เพียงแต่เลือกสิ่งที่ต้องการใช้แล้วกดยืนยัน

ผมได้ลองใช้งานการปรับตั้งอย่างที่ผมต้องใช้งานบ่อยๆ โดยเลือกปุ่มบังคับตามความถนัดมือ อย่างเช่น สิ่งที่ต้องใช้ประจำก็คือ

ตั้งแหวน Control Ring ที่เลนส์เป็นแหวนสำหรับเปลี่ยนค่าความไวแสง ISO

เลือกปุ่มถนัดมือใกล้นิ้วหัวแม่มือ สำหรับกดให้จุดโฟกัสกลับมาอยู่กลางภาพได้ทันทีที่ต้องการ

เลือกปุ่มหนึ่งด้านบนกล้องที่ถนัดมือ สำหรับการเปลี่ยนระบบโฟกัสจาก One Shot เป็น Servo เมื่อต้องการใช้โฟกัสทีละครั้ง หรือ โฟกัสต่อเนื่องได้ตามใจที่ต้องการ 

ปกติผมจะเป็นคนที่ตั้งไฟล์ถ่ายภาพแบบ JPEG แต่หลายครั้งที่เจอภาพถูกใจ ต้องการถ่ายภาพเป็น RAW ไฟล์ ก็ต้องคอยปรับเปลี่ยน แต่ Canon EOS R ง่ายขึ้นทันที ด้วยการตั้งปุ่มใดปุ่มหนึ่งนำมาใช้เป็นปุ่มที่กดเพียงครั้งเดียวก็เข้าเป็น RAW+JPEG ได้ตามต้องการ 

แม้แต่การเลือกรูปแบบของจุดโฟกัส คุณก็สามารถ Customเอาปุ่มใดปุ่มหนึ่งมาใช้งานได้ทันที ทั้งนี้ยังไม่นับในเรื่องอื่นๆ อย่างเช่น การล็อคค่าแสง ล็อคโฟกัส การเลื่อนโฟกัสในระบบ Touch Screen แม้แต่เลือกให้เป็นปุ่มสำหรับ Eye Detection AF ไปจนถึง Flash function settings รวมทั้ง การตั้ง Picture Style   

คุณสามารถเลือกตั้งปุ่มบังคับการใช้งานได้เกือบทั้งระบบของกล้องเลยทีเดียว แม้แต่การสวิทช์ระหว่าง ช่องมองภาพกับจอแสดงข้อมูล และตั้งเป็นปุ่ม WiFi อย่างที่ผมบอกว่า ชีวิตง่ายขึ้นทันทีเลยครับ ในกรณีที่กังวลว่าขณะใช้งานจะเผลอกดหรือหมุนทำให้ค่าที่ตั้งไว้เปลี่ยนก็สามารถใช้ปุ่ม LOCK กดล็อค หรือ กดปลดล็อค การใช้งานได้ทันที

ระบบโฟกัสภาพ Canon EOS R มีระบบโฟกัสที่รวดเร็วดีมาก จับโฟกัสได้แม่นยำดี ระบบโฟกัสติดตามวัตถุทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำดีมาก ผมได้ลองถ่ายภาพนกนางนวลที่บางปู พบว่า ระบบโฟกัสสามารถโฟกัสนกที่บินอยู่ได้อย่างรวดเร็ว และสามารถโฟกัสติดตามนกได้อย่างน่าทึ่งเลยครับ ที่น่าประทับใจก็คือ ระบบโฟกัสของ Canon EOS R สามารถโฟกัสวัตถุได้เกือบถึงขอบภาพเลยทีเดียว และยังสามารถทำงานได้ดี แม้สภาพแสงจะไม่ค่อยอำนวยนัก สามารถโฟกัสภาพในสภาพแสงน้อยได้ดี

คุณภาพของภาพถ่าย

จากภาพถ่ายนำมาพิจารณาภาพถ่าย พบว่า ภาพที่ได้จากกล้อง Canon EOS R มีความคมชัด เก็บรายละเอียดภาพได้ดี  แม้ขยายภาพใหญ่รายละเอียดของภาพดีมาก สีสันของภาพถ่าย ให้ความเป็นธรรมชาติสมจริง สำหรับคุณภาพของภาพถ่ายเมื่อใช้ความไวแสงสูง พบว่า แม้ตั้งความไวแสงสูงระดับ ISO 6400-12800 สัญญาณรบกวนก็ยังถือว่าต่ำคุณภาพรับได้ครับ ส่วนที่ ISO สูงกว่านี้ สัญญาณรบกวนเพิ่มขึ้นตามลำดับ

สำหรับเรื่อง Dynamic Range ของ Canon EOS R พบว่า  มีช่วงกว้างที่ดีมากทีเดียว ส่วนสว่างที่ 1 สต็อป ยังมีรายละเอียดดี ส่วนสว่างที่ 2 สต็อป รายละเอียดลดลง สำหรับส่วนมืด รับได้ถึง 4 สต็อป ที่ยังคงมีรายละเอียดให้เห็น ส่วนมืดที่ 5 สต็อป  รายละเอียดของภาพต่ำลงมาก   

ภาพถ่ายที่ ISO 400

ภาพถ่ายที่ ISO 320

ภาพถ่ายที่ ISO 400

ภาพถ่ายที่ ISO 5000

ภาพถ่ายที่ ISO 1600

ภาพถ่ายที่ ISO 800

บทสรุป

กล้อง Canon EOS R สำหรับผมแล้ว ถือว่าเป็นกล้องรุ่นหนึ่งที่มีสมรรถนะสูง เหมาะสำหรับการถ่ายภาพทั้งมืออาชีพ และมือสมัครเล่นที่ต้องการภาพคุณภาพสูง ถ้าถามว่าผมชอบอะไรสำหรับกล้องรุ่นนี้ ถ้านอกเหนือจากที่เป็นกล้องที่โฟกัสไวมาก แม่นยำดีมาก คุณภาพไฟล์ภาพได้คุณภาพตามที่ต้องการ สิ่งที่ชอบมาก็คือ เป็นกล้องที่ผมถือว่า เป็นนวัตกรรมที่ Canon ได้บรรจุสิ่งใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการในการใช้งาน การปรับตั้งปุ่มบังคับได้ตามใจปรารถนา คือ สิ่งที่ทำให้การถ่ายภาพ ง่ายมากขึ้น ลื่นไหลมากขึ้น ปรับใช้งานได้ทันทีที่ต้องการ ชีวิตง่ายขึ้นจริงๆ ครับ