Review Sony HVL-F60RM

เรื่อง+ภาพ : นพดล…

บทความนี้มาจาก Camerart Magazine 257/2019 February

การถ่ายภาพในยุคกล้องดิจิตอล ก้าวไกลไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งความไวแสงในการถ่ายภาพที่สูงมากกว่าในยุคกล้องฟิล์มอย่างมากมาย ทำให้การถ่ายภาพในสภาพแสงไม่อำนวยทำได้มากขึ้น จนหลายคนลืมเรื่องแฟลชถ่ายภาพไปถนัดใจ…

“ใช้ความไวแสงสูงๆ ถ่ายภาพได้โดยไม่ต้องใช้แฟลชก็ได้” …คำพูดนี้คงเคยได้ยินจากคนถ่ายภาพหลายคน….

แต่…จริงหรือ…ผมคงไม่คัดค้านผู้กล่าวเช่นนั้นหรอกครับ…การถ่ายภาพคุณภาพสูงนั้น…เรายอมรับกันว่า…ภาพถ่ายที่ถ่ายภาพที่ ISO ที่ต่ำ หรือ ถ้าสูงก็ไม่สูงเกินไปนั้น…ให้ภาพที่มีคุณภาพดีกว่า ทั้งในเรื่องของสีสัน การเก็บรายละเอียดในภาพ และที่สำคัญก็คือ Noise ต่ำแบบแทบไม่ปรากฏให้เห็น…จึงไม่แปลกเลยที่การถ่ายภาพคุณภาพสูง ยิ่งเป็นเชิงพาณิชย์ด้วยแล้ว การใช้แฟลชถ่ายภาพ ก็ยังเป็นที่นิยมใช้งานกันอยู่มากมาย

แฟลชวันนี้พัฒนาไปไกลแล้ว…สิ่งที่นักถ่ายภาพหลายต่อหลายคนอาจจะยังไม่ทราบก็คือ แฟลชวันนี้…ได้รับการพัฒนาก้าวไกล ไปอย่างไม่น่าเชื่อ

วันนี้แฟลช High Tech. ทำอะไรได้บ้าง…เรามาดูกัน…โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แฟลชของ Sony ในรุ่น HVL-F60RM…

Sony HVL-F60RM เป็นแฟลชอิเล็คทรอนิกส์ในระบบอัตโนมัติ พร้อมการวัดแสงแบบ Pre-flash เป็นแฟลช High-Tech. รุ่นล่าสุดที่โซนี่แนะนำเข้าสู่ตลาด ต่อจาก Sony HVL-F45RM ที่ออกมาก่อนหน้านี้

Sony HVL-F60RM มีกำลังไฟสูงขนาด Guide No 60 ซึ่งสูงกว่ารุ่น Sony HVL-F45RM ที่มีกำลังไฟ GN 45 หัวไฟปรับก้มเงยได้มากถึง 150 องศา และปรับไปทางซ้ายและขวาได้ 90 องศา การกำหนดทิศทางของแสงแฟลชเป็นเรื่องง่ายทันที ที่พิเศษก็ คือ แฟลชรุ่นนี้ ติดตั้งไฟแบบ LED มาให้ใช้งานได้ด้วย สามารถปรับกำลังไฟของ LED ได้สะดวกสำหรับการถ่ายวิดีโอ และยังสามารถใช้ให้เป็นแสงช่วยโฟกัสในที่มืดได้อีกด้วย

ไฟแฟลช Sony HVL-F60RM ออกแบบมาสำหรับกล้อง E Mount โดยเฉพาะสำหรับตระกูล A6000, A7 และ A9 (สำหรับการสั่งการด้วยสัญญาณวิทยุ ยังขึ้นกับรุ่น อย่างเช่น A7III, A7RIII รุ่นอื่นๆ ต้องตรวจสอบครับ) การประจุไฟรวดเร็ว เพียง 1.7 วินาที หรือ 0.6 วินาที เมื่อใช้กับแบตเตอรี่ภายนอก รุ่น FA-EBA1

HVL-F60RM มุมแสงรองรับเลนส์ได้หลากหลาย ตั้งแต่เลนส์ขนาด 20 มม. ถึง 200 มม. พร้อมพาเนลกว้างสำหรับใช้กับเลนส์ขนาด 14 มม.

HVL-F60RM มี Mode หลักสำหรับการใช้งาน คือ TTL, Manual และ แบบ Multi รวมทั้งการปรับตั้งต่างๆ ใน Menu ปรับชดเชยแสง หรือ ปรับลดกำลังแฟลชใน mode Manual ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

HVL-F60RM รองรับการสั่งการด้วยวิทยุไร้สาย HVL-F60RM ที่ติดตั้งบนกล้องที่รองรับการใช้งาน (อย่างเช่น Sony A7 RIII, A7III, A9) จะสามารถจับคู่กับแฟลชแบบเดียวกันนอกกล้องได้ โดยปราศจากคลื่นอื่นรบกวน สามารถเชื่อมต่อกับแฟลชได้ถึง 15 ตัว กำหนดกลุ่มแฟลชได้สูงสุด 5 กลุ่ม ในการควบคุมแสงแฟลชแบบไร้สาย ที่ระยะห่างสูงสุด 30 เมตร (สามารถใช้งานร่วมกับ อุปกรณ์ตัวควบคุมวิทยุไร้สาย FA-WRC1M และตัวรับวิทยุไร้สาย FA-WRR1 สำหรับอุปกรณ์แฟลชของ Sony ที่ไม่มีระบบรับสัญญาณวิทยุ) สามารถใช้งานร่วมกับ HVL-F45RM ได้ด้วย

ทดลองใช้งาน

ก็อย่างที่บอกแต่แรกแล้วว่า การพึ่ง ISO สูงๆ ถ่ายภาพแต่เพียงอย่างเดียว ไม่ได้หมายความว่าจะได้ภาพคุณภาพสูง คุณต้องผจญกับ รายละเอียดทีสูญเสียไป และผจญกับ Noise ที่มากขึ้น อยากจะถ่ายภาพส่งขายก็ไม่ได้ อยากถ่ายภาพ Portrait แบบสตูดิโอก็ไม่ได้ แต่ถ้าใช้แฟลช…ทำได้ครับ…

บางท่านก็อาจจะกังวลเกี่ยวกับความยุ่งยากของการใช้แฟลช ซึ่งก็ต้องมีบ้างละครับ แต่…อีกนั่นแหละ HVL-F60RM ง่ายมากครับ แทบทุกอย่างเป็นระบบอัตโนมัติ และที่น่าประทับใจมากก็คือ การคำนวณแสงแฟลชถ่ายภาพในระบบอัตโนมัติของแฟลชรุ่นนี้นั้นแม่นยำดีมากเลย ทำให้การถ่ายภาพด้วยแฟลชง่ายขึ้นทันที

ผมทดลองถ่ายภาพ หลากหลายสถานการณ์ ด้วยการใช้แฟลช ใช้งานร่วมกับกล้อง Sony A7III ที่รองรับแฟลชรุ่นนี้เต็มรูปแบบเลย การถ่ายภาพผสมแสงแฟลช ค่าแสงแม่นยำดีมาก สามารถควบคุมแสงได้ง่ายด้วยการชดเชยค่าแสงแฟลชได้ตามต้องการ ที่สามารถปรับชดเชยแสงได้ตามต้องการเลยทีเดียว

การถ่ายภาพด้วยแฟลชรุ่นนี้ตัวเดียว เป็นสิ่งที่ง่าย สะดวก ก็จริงอยู่ แต่สิ่งที่นักถ่ายภาพต้องการ นั่นคือ การควบคุมแสง และ ทิศทางของแสงแฟลช

ดังนั้นการใช้แฟลชมากกว่า 1 ตัว จึงเป็นสิ่งที่จะสามารถสร้างสรรค์ทิศทางและความเข้มของแสงได้ตามที่ต้องการ ผมลองการใช้งานของแฟลช HVL-F60RM ร่วมกับ HVL-F45RM ทำงานสั่งการด้วยระบบวิทยุไร้สาย

แฟลชทั้งสองรุ่นนี้ ใช้งานในระบบวิทยุไร้สายได้ง่ายมาก จะตั้งจากปุ่ม [Fn] หลังแฟลช หรือ ปุ่ม สี่ทิศทาง [SL] ก็ได้ ตั้งตัวหลัก เป็น CMD คือ ตัวสั่งการติดกับตัวกล้อง ส่วนอีกตัวหนึ่ง ตั้งเป็น RCV เป็นตัวรับสัญญาณแยกจากตัวกล้อง จากนั้นเปิด Menu แฟลช เลือก PAIRING เพื่อให้แฟลชจับคู่สัญญาณวิทยุ จุดไฟเหนือจอ LCD หลังแฟลช ปกติจะขึ้นเป็นสีแดง เมื่อแฟลชจับคู่ได้ ไฟจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว พร้อมทั้งเปิดระบบ Wireless Flash ของกล้องถ่ายภาพให้เป็น On (เปิดในเมนูกล้อง) เพียงเท่านี้ คุณก็พร้อมที่จะถ่ายภาพแบบสตูดิโอได้อย่างมืออาชีพเลยทีเดียว

สิ่งสำคัญก็คือ ทิศทางแสง และคุณภาพแสง ถ้าคุณต้องการถ่ายภาพให้ได้สภาพแสงแบบสตูดิโอ สิ่งที่คุณต้องการเรียนรู้ ก็คือทิศทางแสง และคุณภาพแสง ในเรื่องคุณภาพแสงนั้น คุณกำหนดได้ว่าต้องการ แสงแข็ง หรือ แสงนุ่ม

ถ้าคุณต้องการแสงแข็ง หรือ ไม่นุ่มเกินไป ตัวแฟลชก็มีแผ่นสะท้อนแสงที่สามารถดึงออกมาใช้ได้ แต่ถ้าคุณต้องการแสงนุ่ม ร่มสะท้อนแสง ก็จะเป็นอุปกรณ์เสริมที่ทำให้แสงนุ่มขึ้นได้

ตัวอย่างในครั้งนี้ เป็นตัวอย่างง่ายๆ 2 รูปแบบ

การถ่ายภาพ Portrait ผมติดแฟลชที่ตั้งเป็น RCV (ตัวรับ) กับร่มสะท้อนแสง ให้ทิศทางแสงเข้าทางด้านข้างของตัวแบบ เพื่อให้เป็นแสงหลักสำหรับการถ่ายภาพส่วนแฟลชติดกล้องที่ใช้เป็นตัว CMD (ตัวสั่งการ) พลิกหัวแฟลช เข้าหาแผ่นสะท้อนแสงสีขาว ใช้เป็นแสงลบเงา กล้อง และแฟลช จะคำนวณค่าแสงในการถ่ายภาพให้อัตโนมัติ ให้ค่าแสงที่ดีมาก

การถ่ายภาพสินค้า ด้วยหลักการเดียวกัน เพียงแต่อาจจะต้องปรับทิศทางแสงบ้างนิดหน่อย ก็สามารถใช้เป็นการถ่ายภาพสินค้าได้ทันที ดังในภาพตัวอย่าง

ใช้งานง่ายกว่าที่คิดครับ

ถ้าคุณอยากได้ภาพคุณภาพสูงระดับสตูดิโอ HVL-F60RM ใช้งานได้ง่ายกว่าที่คิดครับ ยิ่งถ้ามีแฟลชหลายตัวร่วมกัน การสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องแสงก็สามารถทำงานได้มากยิ่งขึ้นครับ ยิ่งถ้าคุณต้องทำงานถ่ายภาพเพื่อส่งขาย Stock Photo คุณก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องของ รายละเอียดในภาพถ่าย หรือ Noise อีกต่อไป ถ่ายภาพที่ ISO 100 ได้สบายมากครับ

ข้อมูลจำเพาะ

ชนิดของแฟลช แฟลชอิเล็กทรอนิกส์อัตโนมัติ พร้อมการวัด Pre-flash

ฐานเสียบ Multi Interface Shoe

ความแรงของแสงแฟลช ขนาด Guide No 60 ที่ ISO 100

หัวแฟลช ปรับเงยได้ถึง 150 องศา และปรับด้านข้างได้ 30-90 องศา

มุมของแสง ครอบคลุมเลนส์ขนาด 20-200 มม. พร้อมพาเนลกว้างสำหรับมุมภาพความยาวโฟกัส 14 มม.

โหมดแฟลช TTL / Manual / Multi ควบคุมแฟลช โดยใช้ Pre-flash (P-TTL / ADI)

ระยะเวลาแฟลช ภายใน 2.8 ms (1/1 manual)

อุณหภูมิสีของแสง ประมาณ 5500 K

ระบบชดเชยแสงแฟลช ชดเชยได้ +/- 3 สต็อป

ระยะเวลาประจุไฟ 0.1-2.5 วินาที สำหรับถ่านอัลคาไลน์ 0.1-1.7 สำหรับถ่าน Ni-MH

แหล่งพลังงาน ถ่าย AA 4 ก้อน (ถ่านอัลคาไลน์ ใช้งานได้กว่า 150 ครั้ง, ถ่าน Ni-MH ใช้งานได้กว่า 220 ครั้ง)