6 ธันวาคม 2560 – เอปสันเปิดตัวเลเซอร์โปรเจคเตอร์ความสว่างสูง สำหรับองค์กรธุรกิจและกลุ่มนักออกแบบ คอนเท้นท์เพื่องานสร้างสรรค์ พร้อมโชว์ศักยภาพผ่านผลงานการฉายภาพกราฟฟิคบนวัสดุและสิ่งก่อสร้าง หรือ Projection Mapping ออกแบบโดยศิลปินเชียงใหม่ ภายในงาน Chiang Mai Design Week 2017
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ปัจจุบันงาน Chiang Mai Design Week จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 และได้กลายเป็น 1 ใน 5 งานเทศกาลสำคัญของเชียงใหม่ เมื่อปีที่ผ่านมามียอดผู้เข้าชมงานมากถึง 1 แสนคน และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดได้ราว 963 ล้านบาท ทั้งยังเป็นงานที่รวมเอานักสร้างสรรค์จากหลากหลายสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นนักออกแบบ ช่างฝีมือ ศิลปิน และผู้ประกอบการธุรกิจในเชียงใหม่และจังหวัดอื่น มาร่วมกันนำเสนองานออกแบบและขยายช่องทางธุรกิจในอุตสาหกรรม
งานสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังเป็นงานที่มีความสำคัญต่อคนเชียงใหม่ เพราะได้สร้างประสบการณ์ร่วมกับชุมชนผ่านงานออกแบบที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นตามแหล่งต่างๆ ทั่วตัวเมืองเชียงใหม่ งาน Chiang Mai Design Week ยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเต็มที่ ทั้งจากสำนักนายกรัฐมนตรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (TCEB) และศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) เพื่อผลักดันให้เป็นงานใหญ่ประจำจังหวัดที่สามารถเปลี่ยนเชียงใหม่ให้เป็นเมืองสร้างสรรค์”
“เอปสันได้เข้ามามีส่วนร่วมใน Chiang Mai Design Week 2017 ในส่วนของกิจกรรม Art in the City ซึ่งประกอบ ด้วย DigiCrafted Life และ Street Art โดยส่วนของ DigiCrafted Life เอปสันได้เปิดมิติใหม่ในการนำเสนอผลงานศิลปะภายในงาน โดยนำเลเซอร์โปรเจคเตอร์เข้ามาเป็นสื่อกลาง เพื่อสื่อให้เห็นถึงความลงตัวในการทำงานร่วมกัน ระหว่างทักษะฝีมือของศิลปินกับเทคโนโลยี โดยเอปสันได้ทำงานร่วมกับศิลปิน Projection Mappingท้องถิ่น ที่ใช้ฝีมือและไอเดียออกแบบกราฟฟิคดีไซน์ และสร้างสรรค์เป็นผลงานกราฟฟิคเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ฉายด้วยเลเซอร์โปรเจคเตอร์เอปสันที่ด้านหน้าอาคารของพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 เรื่อง ได้แก่ People, Place และ Art & Culture เพื่อเล่าถึงความเชื่อมโยงระหว่างผู้คน สถานที่ ศิลปะและวัฒนธรรม ผ่านกาลเวลาที่เปลี่ยนไป ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการจัดงานในปีนี้ที่ว่า Crafted Life”
“ในส่วนของ Street Art เอปสันได้สนับสนุน 5 ศิลปินสตรีทอาร์ตท้องถิ่นในการสร้างสรรค์ผลงานรอบบริเวณชุมชน วัดล่ามช้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในชุมชนที่เก่าแก่ที่สุดของเชียงใหม่ โดยแนวคิดของงานคือการนำผลงานออกแบบมาอยู่ใน ชีวิตประจำวันของชุมชน เพื่อเชื่อมโยงผู้คนให้เข้ากับงานศิลปะที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเมือง ศิลปวัฒนธรรม และ วิถีชีวิตของผู้คนเชียงใหม่ ซึ่งผลงานออกแบบของศิลปินจะถูกนำมาพิมพ์ลงบนของที่ระลึกสำหรับผู้เข้าชมงาน Chiang Mai Design Week 2017 ด้วยพรินเตอร์ระดับมืออาชีพของเอปสัน” นายยรรยง กล่าว ในงานนี้เอปสันยังได้เปิดตัวโปรเจคเตอร์ใหม่จำนวน 4 รุ่น เพื่อเติมเต็มไลน์เลเซอร์โปรเจคเตอร์ที่มีระดับความสว่างสูงกว่า 10,000 ลูเมนท์ของเอปสันอีกด้วย ได้แก่ รุ่นความสว่าง 12,000 ลูเมนท์ EB-L1515S และ EB-L1505UH และรุ่นความสว่าง 15,000 ลูเมนท์ EB-L1715S และ EB-L1755U ซึ่งทั้ง 4 รุ่น เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่ และต้องการภาพขนาดใหญ่ที่มีความสว่างและความละเอียดของภาพสูง เช่น ห้องจัดงานเลี้ยง หอประชุม โรงละคร พิพิธภัณฑ์ หรืองานอีเว้นท์เอาท์ดอร์
เลเซอร์โปรเจคเตอร์ที่เปิดตัวใหม่ครั้งนี้มีเทคโนโลยีระบบ 4K Enhancement ที่ช่วยเพิ่มความละเอียดในระดับ 4K สามารถปรับสัญญาณภาพระดับความละเอียด 1080 พิกเซล ให้ฉายออกมาในคุณภาพที่สูงกว่า Full HD ทั้งยังใช้ LCD Panel และ Phosphor Wheel แบบ Inorganic ที่ทนความร้อนสูงได้เป็นเวลานาน ทำให้เครื่องสามารถเปิด ใช้งานต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยยังฉายภาพที่สวยสดใสคุณภาพไม่ตก เอปสันจึงกล้ารับประกันอายุการใช้งาน นานถึง 20,000 ชั่วโมง หรือ 3 ปี ครอบคลุมชิ้นส่วนแหล่งกำเนิดแสง (Laser Light Source) นอกจากนี้ยังมีระดับ Contrast Ratio หรือความต่างระหว่างสีดำและสีขาวสูงถึง 2,500,000:1 สูงที่สุดในตลาดปัจจุบันจึงสามารถแสดงภาพที่มีความลึกและรายละเอียดภาพ รวมถึงแสดงภาพแบบ 3 มิติได้อย่างดีเยี่ยม ทั้ง 4 รุ่นนี้ ยังสามารถติดตั้งได้แบบ 360 องศา ไม่ว่าจะย้ายเอียงไปมุมไหน ความสว่างของภาพก็ไม่ลดลง ทั้งยังฉายภาพบนพื้นผิวหลายรูปแบบ เช่น ฉากโค้ง เข้ามุม และยังเชื่อมการฉายภาพหลายเครื่องแบบไร้รอยต่อ หรือ Edge-blending และมีคุณสมบัติ Quick Corner และ Point Correction ที่ทำการปรับภาพฉายให้ลงตัวตามสัดส่วนของฉากรับภาพได้อย่างแม่นยำ
โปรเจคเตอร์ที่เปิดตัวในครั้งนี้ยังติดตั้งกล้องภายในตัว เพื่อช่วยในการตรวจสอบภาพฉายของเครื่องในสภาวะจริง จากระยะไกล จึงทำให้สามารถแก้ไขหากเกิดปัญหาได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติในการบันทึก ข้อมูลคำเตือนเกี่ยวกับการจ่ายไฟและอุณหภูมิในอากาศ เพื่อบริหารประสิทธิภาพการทำงานของโปรเจคเตอร์ได้ และยังรองรับการเชื่อมต่อแบบ HDBaseT
นายยรรยง กล่าวว่า “ในแต่ละธุรกิจมีความต้องการใช้โปรเจคเตอร์ที่แตกต่างกัน แต่มองหาความคุ้มค่าเหมือนกัน เอปสันจึงมุ่งสร้างความแตกต่างที่เหนือกว่าแบรนด์อื่นในตลาด ด้วยการนำเสนอ Customer Values หรือคุณค่าที่ ลูกค้าจะได้รับเมื่อเลือกใช้โปรเจคเตอร์เอปสัน ทั้งคุณค่าด้านคุณภาพของผลงาน ประสิทธิภาพของโปรเจคเตอร์ ความคุ้มค่าในการลงทุน ความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจจากการรับประกันและบริการหลังการขาย และการประหยัด พลังงาน เอปสันยังได้ขยายไลน์เลเซอร์โปรเจคเตอร์ให้กว้างขึ้น จนครอบคลุมทุกระดับความสว่างและความ ละเอียด พร้อมกับเพิ่มฟังก์ชั่นให้หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่มได้มากยิ่งขึ้น”
“สำหรับสินค้าใหม่ทั้ง 4 รุ่นนี้ บริษัทฯ จะทำการตลาดกับกลุ่มลูกค้าตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยที่กลุ่มต้นน้ำ ได้แก่ บริษัทผู้รับเหมาติดตั้งระบบโสตทัศนูปกรณ์มืออาชีพ หรือ Installer ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคและการ ติดตั้งอุปกรณ์ภาพและเสียง ส่วนกลางน้ำคือกลุ่มที่ปรึกษาด้านการออกแบบระบบภาพและเสียงหรือ Consultant Designer ที่จะทำการออกแบบโซลูชั่นสำหรับอุปกรณ์ภาพและเสียงเพื่อใช้ในสถานที่หรืองานต่างๆ ตามความ ต้องการของลูกค้าผู้ใช้ ส่วนกลุ่มปลายน้ำ ได้แก่ ผู้ใช้หรือเจ้าของสถานที่ที่เป็นผู้กำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้งาน โปรเจคเตอร์และงบประมาณ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มนักออกแบบคอนเท้นท์และสร้างสรรค์ผลงานด้าน Projection Mapping ที่มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือกใช้โปรเจคเตอร์ให้เหมาะกับคอนเท้นท์และสถานที่จัดงานของอีเว้นท์ต่างๆ ปัจจุบันโปรเจคเตอร์ที่ความสว่าง 12,000 – 15,000 ลูเมนท์ กำลังเป็นที่นิยมในตลาดองค์กรและธุรกิจสร้างสรรค์ แต่กลับยังมีทางเลือกในตลาดไม่มากนัก เอปสันจึงมั่นใจว่าโปรเจคเตอร์ใหม่นี้จะได้รับความสนใจอย่างมาก”
“Chiang Mai Design Week 2017 เปิดโอกาสให้เอปสันได้แสดงศักยภาพของเลเซอร์โปรเจคเตอร์และพรินเตอร์ สู่สายตาของเหล่านักออกแบบ ศิลปิน ผู้ประกอบการ และองค์กรต่างๆ ทั้งยังได้ทำงานร่วมกับนักออกแบบนักสร้างสรรค์ และศิลปินรุ่นใหม่ ซึ่งเอปสันรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในงานนี้ และได้ใช้เทคโนโลยีของบริษัทฯ สร้างบรรยากาศเมืองสร้างสรรค์ให้กับจังหวัดและผลงานศิลปะให้กับชุมชนเมืองเชียงใหม่” นายยรรยงทิ้งท้าย