Camerart Magazine VOL.251/2018 August

TEST REPORT

SONY RX100 VI

คำว่ากล้องตัวเดียวเที่ยวทั่วโลกนั้น คงไม่เกินความเป็นจริงกันแล้ว เมื่อบริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เดินหน้าเขย่าตลาดกล้องเมืองไทย ให้สั่นสะเทือนอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวสุดยอดกล้องพรีเมียมคอมแพคในตระกูล Cyber-Shot RX Series รุ่นล่าสุด RX100 VI (อาร์เอ็กซ์ 100 มาร์คซิกซ์) ที่ได้รับการต่อยอดจากความสำเร็จของกล้องรุ่น RX100 V ให้มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยจุดเด่นของกล้อง RX100 VI ยังคงรักษาคอนเซ็ปท์การดีไซน์ที่เล็กกะทัดรัดเพื่อให้เหมาะต่อการพกพาในสไตล์กล้องคอมแพค แต่ให้ประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้นกว่าเดิม ด้วยเลนส์ ZEISS Vario-Sonnar T* ที่พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุดให้ช่วงเลนส์ ตั้งแต่ 24-200 mm. F2.8-4.5 ซึ่งให้พลังการซูมสูงในการถ่ายภาพได้ไกลมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองผู้รักการถ่ายภาพที่ต้องการคุณภาพของภาพถ่ายในระดับมืออาชีพอย่างแท้จริง

LAOWA 9 mm. F2.8 Zero-D

มันเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดมาก…เมื่อต้องการถ่ายภาพมุมกว้าง…สำหรับคนที่ใช้กล้อง ที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ขนาด APS-C ยิ่งวันนี้มีผู้ใช้กล้อง Mirrorless มากขึ้น กล้อง Mirrorless ที่ใช้ส่วนใหญ่ก็เป็นกล้องที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ขนาด APS-C ด้วยแล้ว หาเลนส์มุมกว้างๆ ใช้ยากมาก เลนส์มุมกว้างมากระดับ Ultra-Wide ก็มีจำกัดเสียด้วย ที่มีมาให้ใช้จากค่ายญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็ราคาแบบต้องเอื้อมเอามาใช้…ยิ่งเป็นเลนส์ค่ายหลายคนก็ถอดใจกันไปเลย…

ด้วยเหตุนี้…ทำให้ค่ายผลิตเลนส์อิสระจากจีน ถือเป็นโอกาสในการผลิตเลนส์อิสระที่มีมุมกว้างๆ ป้อนเข้ามาให้ใช้…แต่ก็อีกนั่นแหละ…หลายคนก็ขยาดในเรื่องของคุณภาพของเลนส์ว่ามันเจ๋งจริงหรือเปล่า…ยิ่งบอกว่าเป็นค่าย…จีน…

PHOTO TECHNIQUE

จัดไฟถ่าย Portrait

ช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ได้ร่วมถ่ายภาพในโครงการ First Portrait of My Live…ของมูลนิธิภาพถ่ายแห่งประเทศไทย ด้วยการถ่ายภาพผู้สูงอายุ และทำการอัดขยายภาพถ่ายใส่กรอบ มอบให้กับผู้สูงอายุ กำหนดไว้ว่าจะพยายามถ่ายภาพ และส่งมอบภาพให้ได้ถึง 1,000 คน

ในการถ่ายภาพครั้งนี้ ทีมงานได้จำลอง Studio ถ่ายภาพเคลื่อนที่ไปยังที่ต่างๆ จัดไฟถ่ายภาพ เพื่อให้ได้ภาพที่ได้ทั้งแสง และ สีที่ดีสำหรับภาพที่จะส่งมอบให้กับผู้สูงอายุ ก็ขอถือโอกาสนำเรื่องการจัดไฟสำหรับการถ่ายภาพ Portrait มาฝาก

สำหรับการถ่ายภาพในกิจกรรมครั้งนี้  ได้เลือกการถ่ายภาพด้วยการใช้ไฟ Studio Flash เพื่อให้สามารถควบคุมในเรื่องของสีภาพให้ตรงตามความเป็นจริง และควบคุมในเรื่องของความคมชัดและความชัดลึกของภาพให้ได้ตามต้องการ ด้วยการกำหนดหัวไฟที่จะใช้ สำหรับการจัดไฟ เป็น ไฟ 3 ดวง

Chiaroscuro, Rembrandt Lighting and Low-Key Style

ยังมีการเข้าใจผิดอยู่มากว่าภาพ Low-key คือการถ่ายภาพให้ได้ภาพที่มืด ก็เลยมีการปรับค่าการเปิดรับแสงให้ under exposure ซึ่งอันที่จริงแล้วการถ่ายภาพ low-key ไม่ใช่การถ่ายภาพอันเดอร์แต่อย่างใด กับความเข้าใจผิดอีกอย่างก็คือ การจัดให้ส่วนรอบๆ วัตถุเกิดความมืด แล้ววัตถุได้รับแสงพอดี หรือวัตถุสว่างบนฉากหลังมืด จริงๆ เขาเรียกว่า spot lighting คือการจัดแสงให้ลงเฉพาะจุด การถ่ายภาพ low-key จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องของการควบคุมแสง ฉากหลัง และ subject ที่เราจะถ่าย หากจะบอกว่าการถ่ายภาพ low-key นั้นเขาใช้หลักการของ chiaroscuro ที่มาจากงานภาพวาดคงจะไม่ใช่การกล่าวลอยๆ ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรนั้นเราไปดูกัน

TRAVEL

เที่ยว 2 งาน เทศกาลเข้าพรรษา

ช่วงเวลาเข้าพรรษาที่ผ่านมา ผมไม่เคยได้ออกไปร่วมชมเทศกาลงานต่างๆ เลย จึงไม่มีภาพงานตามสถานที่หรือวัดที่มีชื่อเสียงที่ช่างภาพหลายคนนิยมไปเก็บภาพความประทับใจกัน  แต่ปีนี้ผมได้ร่วมทีมประชาสัมพันธ์ให้ ททท. จึงได้มีโอกาสเข้าร่วมงานเทศกาลประเพณีเข้าพรรษาที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ของประเทศไทยถึงสองงาน สองจังหวัด นั่นคือ งานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา วัดพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี และงานประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำลาดชะโด จังหวัดอยุธยา ทั้งสองงานเป็นงานประเพณีที่จัดกันเป็นประจำทุกปีอย่างยิ่งใหญ่ เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นที่มีมาอย่างยาวนาน ถือว่าเป็นโชคดีของผมอย่างมากที่ได้ไปงานที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศทั้งสองงาน

เที่ยวเหนือฝัน…วันธรรมดา เชียงใหม่ธรรมดา หน้าฝน

ถ้าคุณเป็นคนชอบบรรยากาศสีเขียว การท่องเที่ยวหน้าฝนเป็นคำตอบของคุณเลย ไม่ว่าจะไปไหน ความเขียวขจีของป่าเขาลำเนาไพร ก็จะทำให้เราสบายตา รอบนี้เราได้รับเชิญจากทีม ททท.ภาคเหนือ ให้ร่วมทริปสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวหน้าฝน กับชื่อทริปที่สุดกิ๊บเก๋ เที่ยวเหนือฝัน…วันธรรมดา “เชียงใหม่ธรรมดาหน้าฝน” กับจังหวัดเชียงใหม่ที่สวยทุกฤดูกาล จุดหมายแรกของการสำรวจเริ่มต้นกันที่ เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ดอยอินทนนท์ ชื่นชมผืนป่าดึกดำบรรพ์ บรรยากาศในอ่างกาหลวงปกคลุมด้วยเมฆที่ลอยพัดผ่านเข้ามาตลอดเวลา อากาศจึงชื้นและเต็มไปด้วยละอองน้ำ ทำให้ต้นไม้ใหญ่ในป่าดิบเขามีมอสและเฟินขึ้นหุ้มเต็มต้นจนแลดูราวกับป่าในยุคดึกดำบรรพ์

MISCELLANEOS

สถานีวัดมังกร แนวคิดและการออกแบบตกแต่งสถานีให้เข้ากับวิถีชีวิตของชุมชน

สถานีวัดมังกร เป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสายใหม่ที่เป็นส่วนต่อขยายช่วงสายสีน้ำเงินส่วนใต้ (หัวลำโพง-หลักสอง) ตั้งอยู่บริเวณถนนเจริญกรุง ใกล้กับวัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) โดยสถานีนี้จะเป็นสถานีแรกของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-บางแค สถานีวัดมังกร เป็นหนึ่งในสถานีรถไฟฟ้าที่มีตัวสถานีอยู่ใจกลางพื้นที่เมืองเก่าของกรุงเทพมหานครภายในขอบเขตระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยา คลองรอบกรุง และคลองผดุงกรุงเกษม โดยแผนงานก่อนหน้านี้ได้ระบุที่ตั้งสถานี และจุดขึ้น-ลงสถานีอยู่ที่ ซอยเจริญกรุง 16 (ตรอกอิสรานุภาพ หรือตรอกเล่งบ๊วยเอี้ย) หรือตลาดใหม่เยาวราช ซึ่งถือเป็นย่านการค้าเก่าแก่ใกล้กับโบราณสถานที่สำคัญคือ วัดมังกรฯ บริเวณที่ตั้งของสถานีวัดมังกรนี้เป็นย่านที่มีวิถีชุมชนเป็นเอกลักษณ์ และเกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์การตั้งถิ่นฐานของชาวไทยเชื้อสายจีน

Leica ตำนานกล้องที่ช่างภาพใฝ่ฝัน ตอน 9

มีกล้องหลายรุ่นซึ่งคนทั่วไปไม่ค่อยจะเห็น จะมีก็แต่เพียงคนที่ติดตามกล้อง Leica อย่างใกล้ชิดเท่านั้นที่จะรู้ MIFILM-CA เป็นกล้องชนิดพิเศษตัวหนึ่ง ซึ่งผลิตออกมาในจำนวนน้อยมากในช่วงทศวรรษที่ 1920 ก่อนที่จะมีการผลิตเลนส์ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ซึ่งสามารถใช้กับกล้อง Leica รุ่นต่างๆ โดยการใช้ร่วมกับ Mikas เป็นชิ้นส่วนที่แยกต่างหาก กล้อง MIFILM-CA รุ่นนี้ใช้สำหรับงาน Microscope ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับ Mikas Type Attachment ที่ยึดติดตายตัว  เพื่อให้สามารถนำกล้องไปติดบนกล้อง Microscope (กล้องจุลทรรศน์) ได้ ความจริงกล้อง MIFILM-CA ก็คือ Compur B ซึ่งไม่มีชัตเตอร์ และ ช่องมองภาพ ตัวกล้องสลักคำว่า MIFILMCA X 1/3 กล้องเหล่านี้หาได้ยากมาก มีอยู่ 2 แบบ คือ แบบแรกจะมี Mikas-Type Attachment ยึดติดตายตัว ทาสีดำ แบบที่สองเป็น Mikas ที่มีเกลียวสามารถถอดเปลี่ยนได้

เรื่องของเลนส์ และ มุมรับภาพ

ถ่ายภาพ และสอนถ่ายภาพ มานานหลายสิบปี…คำถามหนึ่งที่เจอบ่อยครั้งเวลาออกทริปถ่ายภาพ ก็คือ…ควรใช้เลนส์ขนาดไหนถ่ายภาพครับ….สำหรับนักถ่ายภาพมือใหม่ๆ ผมเชื่อว่า ก็คงจะมีอีกหลายท่านเหมือนกันละครับ ว่าจะเลือกเลนส์ช่วงไหน ขนาดไหนถ่ายภาพในสถานการณ์ต่างๆ

ในยุคของการถ่ายภาพระบบดิจิตอล ก้าวไกลอย่างรวดเร็ว การถ่ายภาพง่ายมากขึ้น โอกาสได้ภาพงามๆ มากขึ้น ที่สำคัญก็คือ ซอฟแวร์ มีส่วนในการปรับแต่งภาพได้ภาพงามขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์เลยทีเดียว แต่สำหรับนักถ่ายภาพมือใหม่ ก็ยังคงติดปัญหา ตัดสินใจว่าจะเลือกเลนส์ช่วงไหน ขนาดไหน สำหรับถ่ายภาพในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งการนำเลนส์ติดตัว เพื่อไม่ให้เป็นภาระสำหรับการเดินทางถ่ายภาพ แน่นอนว่า ยังเกี่ยวข้องกับการหาซื้อเลนส์ไว้ใช้งานอีกด้วย

หน้าต่างสมาชิก

จุดแรก เช็คอินของเรา ซุ้มป่าไผ่ วัดจุฬาภรณ์วนาราม   เหมือนได้ไปเที่ยวป่าไผ่อาราชิยาม่า ในประเทศญี่ปุ่น ซุ้มป่าไผ่นี้จะตั้งอยู่ในทางข้างเข้าวัดจุฬาภรณ์วนาราม ตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านนา วัดค่อนข้างเงียบสงบ ลงรถปุ๊บเราก็จะได้สัมผัสบรรยากาศเหมือนอยู่ประเทศญี่ปุ่น ซุ้มป่าไผ่ที่นี่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แล้วโน้มเข้าหากันตามธรรมชาติ ทอดตัวเป็นแนวยาวหลายสิบเมตร ให้ความร่มรื่น แต่พอคณะ CAMERART  ถึงที่ เราก็เห็นแต่พวกเราเอง 555… มุมถ่ายภาพที่ถ่ายจากด้านหน้าสุดจะดูเหมือนป่าไผ่อาราชิยาม่า เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่จัดว่าเป็น อันซีนที่ห้ามพลาด ใครชอบถ่าย  Portrait ที่นี่เหมาะมาก ยิ่งช่วงฤดูฝนแบบนี้ ป่าไผ่จะยิ่งเขียวขจี สีสันสดใส ทริปนี้เราได้สองนางแบบกิตติมศักดิ์ พี่ต๋อง และพี่อลิส มาเป็นนางแบบจำเป็นให้เพื่อนๆ

ได้เวลาเดินทางกันต่อ eyejung ก็ไล่ต้อนไปสิคะ… อีกกลุ่มก็แอบถ่ายกันเงียบๆ กันอยู่ข้างหลัง eyejung มันคืออะไร…มีแอบอย่างนี้ด้วยเหรอ รอบแรกเหมือนจับปูใส่กระด้งจริงๆ ตอนลงไปบอกไม่รู้จะถ่ายอะไรดี พอเรียกให้ไปอยากจะถ่ายภาพต่อ มันคืออะไรกันคะ….

พักบ้านอนุรักษ์บราวน์มิลล์

เดินออกมานอกบ้านเห็นสนามกว้าง รอบบ้านมีต้นไม้ขึ้นสูงเต็ม มีดอกไม้ในกระถางออกดอกสวย การทำสวนปลูกต้นไม้เป็นฝีมือคุณดอน ที่พรวนดิน ฝังเมล็ด รดน้ำจนทุกต้นเจริญเติบโตคุณดอนบอกว่าชอบทำสวนมากเวลาทำมีความสุข โดยเฉพาะดอกไม้ออกดอกดูแล้วชื่นใจ ออกผลก็ได้ใช้ประโยชน์ เช่นปลูกองุ่นต้นมะเขือเทศ ถั่ว ทำไวน์ ปลูกต้นส้ม แอปเปิ้ล เอาผลมากวนทำแยม แจกคนที่มาหา คุณเดวิดเล่าว่ามีขวดไวน์ที่บ้าน ตอนเย็นๆจิบวันละถ้วยเจริญอาหาร

หน้าต่างบ้านปลูกไม้ดอกที่เลื้อยลงมาปกคลุม ออกดอกสีม่วงใหญ่สวย กลางสนามตรงกับหน้าบ้าน มีเสาปูนสูง ตั้งกระถางดอกไม้ไว้ที่สนามริมเสาที่ตั้งนาฬิกาแดด คุณดอนพูดสนุกๆ ว่า นาฬิกามีอายุกว่าร้อยปี บอกเวลาเที่ยงตรง บ้านนี้มีชื่อว่า บราวน์ มิลล์ ที่รัฐบาลประกาศอนุรักษ์ ทั้งคุณดอนและคุณแมรี่ ต้องอนุรักษ์ให้เหมือนเดิม ห้ามต่อเติม เล่าถึงประวัติบ้านว่า