MEMBER CLUB… “One Day Trip เพชรบุรี 2018”

ทริปนี้ออกเดินทางกันแต่เช้าเช่นเดิม จุดนัดหมายเรายังใช้ที่โอสถศาลา และรับจุดที่สอง Big C พระราม 2 ด้วยครั้งนี้จุดหมายหลักของเราเป็นอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จากปกติที่ใช้รถบัสในการเดินทางครั้งนี้เราจำต้องเปลี่ยนมาใช้รถตู้ เพื่อความสะดวกในการเข้าพื้นที่อุทยาน รับทุกจุดเรียบร้อยได้เวลาออกเดินทาง พร้อมสอดส่องสายตาหานาเกลือ เพราะ…ตั้งแต่ทริปจังหวัดสมุทรสาคร ที่เราตั้งเป้าหมายว่าจะพาทุกท่านไปเก็บภาพนาเกลือก็พลาด ด้วยช่วงที่ผ่านมามีฝนตกลงมา ยังไม่มีการกองเกลือ แต่ทริปนี้…โชคดีเห็นกองเกลืออยู่ เป้าหมายแรกของเราให้สมาชิกลงไปเก็บภาพนาเกลือก่อน ครั้งนี้ยังไม่มีคนมาทำงาน เลยได้แต่นาเกลือเปล่าๆ กลับแสงแดดอ่อนยามเช้า ที่ทอประกายเป็นแสงทองส่องมายังพื้นนาเกลือก็สวยไปอีกแบบ ขาดแต่ก็คนทำงานนี่แหละ ที่จะมาสร้างความเติมเต็มให้ภาพสมบูรณ์ได้อย่างไง ท้าทายความสามารถของช่างภาพกันเล็กน้อยกับจุดแรก 

และอย่างที่รู้กันว่ามานาเกลือที่ไร ชื่อเสียง eyejung จะขจรขจาย เสียเหลือเกิน ดูเป็นที่รักขึ้นมาทันที่ แม้จะพยามหลบปลีกตัวไปแล้ว ก็ยังไม่วาย… รอบนี้เจอ คุณเตโชทัย ถามหาว่าหายไปไหน จะให้ช่วยมาเป็นแบบสักหน่อย จะได้ภาพนางพญานาเกลือ เกือบจะรู้สึกดีแหละที่ให้เป็นนางพญา แต่นางพญานาเกลือนี่มันคืออะไร พี่น้อง จีรวรรณ ได้ยินแค่นั้นแหละจากที่รู้กันไม่กี่คน คราวนี้ในกลุ่ม CAMERART ทั้งภาพ eyejung และวิวกองเกลือ พร้อมคำบรรยายของนางพญา 555…. นี่เห็นเราเค็มกันขนาดนั้นเลยหรอ แหม่ๆ ไม่ได้แหละต้องรีบไปจุดต่อไป เดี๋ยวชื่อเสียงจะเลื่องลือไปมากกว่านี้ จากนาเกลือแวะเติมพลัง ร้านข้าวแกงแม่ล้วน ร้านประจำทริปทุกครั้งที่เราเดินทางมายังจังหวัดเพชรบุรี อิ่มอร่อยกับข้าวแกงต้นตำรับอาหารไทยแล้ว ออกเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองเพชรบุรี กับจุดหมาย วัดพระพุทธไสยาสน์ แต่เราเรียกกันว่า (วัดพระนอน)

วัดพระพุทธไสยาสน์ (วัดพระนอน) ตั้งอยู่ถนนคีรีรัถยา ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเขาวัง (พระนครคีรี) เป็นวัดเก่าแก่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด สันนิษฐานว่าเป็นวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาซึ่งมีพระพุทธไสยาสน์ก่ออิฐถือปูน ยาว 21 วา 1 ศอก 1 คืบ 7 สร้างหลังคาคลุมไว้ พร้อมทำผนังรอบองค์พระ เป็นลักษณะวิหารพระพุทธไสยาสน์ ด้วยพระนอนอยู่ในวิหารที่ค่อนข้างแคบ และติดเสามากมาย การถ่ายภาพพระพุทธไสยาสน์ ถือว่าค่อนข้างลำบากด้วยองค์พระที่องค์ใหญ่ ติดเสา และหลอดไฟที่ห้อยระโยงระยางจำนวนมากมาย พื้นที่ตั้งกล้องแคบมาก แถมนักท่องเที่ยวอื่นๆ ที่เดินทางมาไหว้พระกันอีก การจะเก็บภาพได้หมด คนที่มีเลนส์ฟิตอายบอกเลยได้เปรียบสุดๆ งานนี้ คุณหมอชาญยุทธ ที่เดินทางจากขอนแก่น เพื่อมาร่วมทริปกับเราด้วย ถึงกับบ่นเสียดายไม่ได้ติดเลนส์ฟิตอายมาด้วย นั่งถอยจนหลังชนกำแพงก็ยังเก็บภาพไม่หมด เป็นอีกจุดที่ท้าทายฝีมือช่างภาพมาก งานนี้ต้องมาลุ้นกันว่าใครจะอัญเชิญพระพุทธไสยาสน์ กลับบ้านได้อย่างงดงาม นอกจากพระนอนแล้ว ด้านหน้าพระนอนยังมีพระพุทธรูปปางอื่นๆ ที่ตั้งเรียงรายอยู่ด้านหน้า ให้ได้ไหว้พระปิดทองคำเปลว แต่ชาว CAMERART ก็ช่างหามุมในการสร้างสรรค์ และจุดนี้เองที่ ทาง ททท. พื้นที่จังหวัดเพชรบุรี มาให้การต้อนรับและมานำคณะไปเที่ยวในจุดอื่นๆ ของจังหวัดเพชรบุรี นำทีมโดย...คุณโก้ คุณโต๊ด และน้องน้ำ

จากวัดพระนอนเราจะพาคณะ CAMERART เดินทางมาสู่วัดมหาธาตุวรวิหาร นำทีมโดย ททท.จังหวัดเพชรบุรี วัดมหาธาตุวรวิหาร เป็นพระอารามหลวง และเป็นวัดสำคัญที่ตั้งอยู่กลางเมืองเพชรบุรี มีพระปรางค์ห้ายอดอันเป็นร่องรอยของอารยธรรมแบบเขมร พื้นล่างของพระปรางค์เป็นศิลาแลง ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นสถาปัตยกรรมสมัยทวาราวดี เราจะพระปรางค์ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองเพชร สามารถมองเห็นได้ง่าย ชัดเจนทั่วทิศทาง และจุดนี้เองทางทีม CAMERART ขอเก็บภาพเป็นที่ระลึกร่วมกับทีม ททท.สำนักงานเพชรบุรี ก่อนจะแยกเก็บภาพ อาจารย์นพ…. แจ้งบอกทุกท่านว่า… “ใครอยากทดสอบเรื่องการวัดแสง ต้องลองถ่ายพระปรางค์ห้ายอดสีขาวองค์นี้ดู” และนอกจากพระปรางค์ที่เป็นสถาปัตยกรรมโบราณแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่พลาดไม่ได้ คือ เรื่องงานปูนปั้น ที่ทาง ททท.สำนักงานเพชรบุรีให้ความรู้เรามาในครั้งนี้ว่า งานสกุลช่างเมืองเพชร จะรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตนเอง หนึ่งในหลายงาน คือ งานปูนปั้น เป็นงานศิลปะแขนงหนึ่งที่มาแต่โบราณชาวเพชรบุรีสืบสาน สืบทอดต่อๆ ด้วยความโดดเด่นในด้านฝีมือที่มีเอกลักษณ์ที่ละเอียดและซับซ้อน งานปูนปั้นถือเป็นงานวิจิตรศิลป์ และเป็นสื่อพื้นบ้านประเภทประติมากรรม ซึ่งจัดทำขึ้นในศาสนสถานเพื่อสื่อถึงโลกทัศน์ทางพุทธศาสนา  ลวดลายบนปูนปั้นจะมีสองลักษณะคือ ลวดลายที่สื่อถึงเรื่องราว เช่น ลายที่สื่อถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า และลายที่ไม่สื่อเรื่องราว เช่น ลายดอกไม้ ลายก้ามปู เป็นต้น ลวดลายเหล่านี้เป็นศิลปะที่สืบทอดกันมาซึ่งส่วนใหญ่ผูกพันอยู่กับวัดจึงทำให้เกิดกลุ่มช่างตามวัดต่างๆ ในเพชรบุรี เช่นกลุ่มช่างวัดเกาะ กลุ่มช่างวัดมหาธาตุ โดยแต่ละกลุ่มช่างก็จะมีการเน้นเอกลักษณ์ของตนให้เห็นเด่นชัด และด้วยคุณภาพของปูนทำให้ช่างสามารถปั้นลายปูนปั้นที่ละเอียดและซับซ้อน ด้วยเหตุนี้งานปูนปั้นเมืองเพชรจึงเป็นงานที่มีความโดดเด่นเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป นอกจากเที่ยวถ่ายภาพเรายังได้ชื่นชมสถาปัตยกรรมที่งดงามอีกด้วย

เสพงานศิลปกันแล้ว ได้เวลาทานอาหารเที่ยงกันแล้ว โดยงานนี้ทาง ททท.สำนักงานจังหวัดเพชรบุรี ให้ความอนุเคราะห์ในการเลี้ยงอาหารเที่ยงชาว CAMERART ณ JM Cuisine (เจ๊กเม้งก๋วยเตี๋ยวเนื้อ) (เจ เอ็ม คลูซีน) อยู่ข้างทางขึ้นรถรางไฟฟ้า เขาวัง มีเมนูหลากหลายให้ได้เลือกทาน

อิ่มอร่อยกับอาหารเที่ยงกันแล้ว เดินทางสู่จุดหมายปลายทางสุดท้ายอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ปลายทางอยู่ที่แคมป์บ้านกร่าง และ ททท.เพชรบุรี เพิ่งเปิดตัวโครงการ “เพชรบุรี เมืองหลวงแห่งการดูนก” ที่จะชวนนักดูนกทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ มาดูนกที่น่าสนใจ และนกหายากอีกหลากหลายชนิด จาก 4 แหล่งดูนกในจังหวัดเพชรบุรี ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – พฤษภาคม ของทุกปี 

พื้นที่ที่แก่งกระจาน เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ว่าเป็นแหล่งดูนกที่ดีที่สุดของเมืองไทย นอกจากนกแล้วในช่วง กลางเดือนเม.ย.- มิ.ย. ของทุกปี จะมีผีเสื้อจำนวนมาก แม้ช่วงที่เราเดินทางไปจะเป็นช่วงกลางเดือนมีนาคม แต่ก็เริ่มมีผีเสื้อให้เห็นบางแล้ว แม้จะยังไม่หลากหลายสายพันธ์เหมือนในช่วงกลางเดือนเมษายน เดินทางสู่แคมป์บ้านกร่าง ใช้เวลาพอสมควร ถึงสู่แคมป์บ้านกร่างวันนี้ดูนักท่องเที่ยวยังไม่เยอะ อาจะยังไม่เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวจะทราบกันดีว่าในแต่ละสถานที่จะมีช่วงเวลาทองของการท่องเที่ยว เป็นช่วงที่สวยงามที่สุด และช่วงนั้นก็จะคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว

พอถึงแคมป์บ้านกร่าง เราต้องจอดรถ ณ จุดนี้ ทางอุทยานจะไม่อนุญาตให้นำรถตู้ และรถเก๋งเดินทางเข้าไปยังจุดต่อไป ส่วนใครอยากเดินทางเข้าไปต่อยังลำธารที่ 1 และ ลำธารที่ 2 มีให้เลือก 2 วิธี คือ หนึ่งโบกรถนักท่องเที่ยวท่านอื่นที่เป็นรถกระบะ หรือรถ 4 WD เข้าไป แต่ถ้าไม่มี อีกหนึ่งทางเลือก คือตนเป็นที่พึ่งแหล่งตน สองขาของเรานี่แหละที่จะพาเราเขาไป เดินก็สบายๆ ร้อนบางอะไรบ้างแต่ไม่ลำบาก สำหรับเราชาวช่างภาพถือว่าชิลๆ ระหว่างทางอาจจะมีนกให้ได้ถ่ายภาพ หรือค่างแว่น หรือชะนี ออกมาโชว์ตัวเป็นแบบให้ได้สอดสายตาเหลียวมองยกกล้องถ่ายภาพกันไป ส่วนท่านไม่อยากเดินทางก็ ก็บริเวณลำธารใกล้จุดจอดรถแคมป์บ้านกร่าง ซึ่งจุดนี้เจ้าหน้าที่บอกว่าผีเสื้อเยอะกว่าจุดอื่นๆ

นอกจากอุปกรณ์ถ่ายภาพที่จำเป็นแล้ว ผู้มีประสบการณ์ถ่ายภาพผีเสื้อจะรู้ดีว่ามุมที่เก็บความสวยงามของผีเสื้อที่ดีที่สุด คือมุมขนานพื้น แต่ eyejung ก็เป็นหนึ่งในผู้มีประสบการณ์ ก่อนไปถ่ายภาพเราก็ศึกษานิดหนึ่งว่าต้องมีอุปกรณ์เสริมความสะดวกสบายอะไรบ้าง ขาตั้งกล้องตัวเล็ก จะสะดวกมาก โดยเฉพาะขาตั้งกล้องแบบพกพา Manfrotto รุ่น PIXI Mini Table Top Tripod เรียกว่าเหมาะกับการถ่ายภาพมุมต่ำมาก ต่อมาก็ร้องเท้าที่สามารถลุยน้ำได้ และที่สำคัญอีกอย่าง กระดาษ หรือผ้ายาง ถ้าจะถ่ายผีเสื้อมุมต่ำ จะได้เอาไปปูนอนถ่ายได้ ใครมี จอ LCD พับได้ ก็ไม่ต้องเตรียม อุปประกรณ์กันแดด พัดลมพกพา นี่คือสิ่งที่ eyejung เตรียมไป พร็อบพร้อมทุกอย่างพร้อมขาดอย่างเดียวก็ฝีมือเนี่ยแหละ 555… เรื่องความเยอะขอให้บอก แต่คนที่ไม่เตรียมอะไรอย่างที่ eyejung บอกเลยคือ พี่ธงชาติ แต่มีที่เด็ดพกสนับศอกมาด้วย นี่ทริปถ่ายภาพหรือทริปออกรบกันนี้ นอกจากจะจัดเต็มอุปกรณ์กันแล้ว ทริปนี้เรายังตามรอยออเจ้า แม่นางการะเกด และท่านขุน แต่ละท่านมีความเรียบร้อยในการถ่ายภาพเป็นยิ่งหนัก ทั้งมอบ ทั้งคลาน พับเพียบเรียบร้อยในการถ่ายภาพเป็นที่สุด 

จากแคมป์บ้านกร่างเดินทางลงมายังริมเขื่อนแก่งกระจาน จุดสุดท้ายแสงเย็น….ที่หลายปีที่ผ่านมาเราไม่เคยถ่ายแสงเย็นได้เลยมาที่ไรเจอฝนตกทุกที่ ทริปนี้ฟ้าเป็นใจ…ลุ้นอย่างเดียวว่าจะได้พระอาทิตย์ลูกกลมโตหรือเปล่า ระหว่างรอแสงเย็น eyejung ก็ขอแจกรางวัลจากการประกวดทริปที่ผ่านมาก่อน และแล้วก็ถึง…เวลาทองของการเก็บแสงเย็นที่พระอาทิตย์จะตกลับขอบฟ้า ก็เป็นการส่งสัญญาณว่าทริปเราวันนี้ใกล้จบลงแล้ว เก็บเกี่ยวความทรงจำดีๆ บันทึกไว้ในใจและให้ภาพถ่ายบอกเล่าความสวยงามของสถานที่ที่เรามาเยือน Bye…eyejung