เรื่อง : eyejung, ภาพทีม : CAMERART
บทความนี้มาจาก Camerart Magazine ฉบับ 237/2017 June
ทริปกิจกรรมประจำของทาง CAMERART อบรมการถ่ายภาพที่จัดกันทุกสองเดือนครั้ง รอบนี้วนมาในหัวข้อการถ่ายภาพเบื้องต้น ผู้ร่วมอบรมของเราครั้งนี้ต้องบอกว่ามีใจรักด้านการถ่ายภาพกันจริงๆ เพราะต้องฝ่าสายฝน อบรมกันเรียบร้อย เตรียมตัวออกไปถ่ายภาพกันที่จังหวัดชลบุรี ครั้งนี้เรา ได้รับความอนุเคราะห์จากทาง สวนสัตว์เปิดเขาเขียวให้สมาชิกเขาไปฝึกถ่ายภาพฟรี พร้อมมีเจ้าหน้าที่สุดหล่ออย่าง คุณอาร์ม ที่มาให้การต้อนรับและขึ้นรถรางพาชมในส่วนต่างๆ แต่ก่อนจะไปชมเราขอเก็บภาพหมู่เป็นที่ระลึกกันก่อน ขึ้นรถรางกันเรียบร้อยเจ้าหน้าที่พาชมจุดต่างๆ ก็ตื่นตาตื่นใจกันไป จนมาถึงจุดเจ้าตัว สลอธ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่รู้เราจะได้เห็นกันไหม เพราะเจ้าตัวสลอธ เป็นสัตว์ที่นอนวันละ 20 ชม. และ ลงมาขับถ่ายอาทิตย์ละ 2 ครั้งเท่านั้น เป็นสัตว์เคลื่อนที่ช้าที่สุดในโลก เรียกว่าใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์มาก แถมพบเห็นยากมาก เพราะมันเอาแต่นอน ซึ่งวันนี้โชคนี้มาก เราได้เห็นเจ้าสลอธ ออกมาปีนป่ายเล่น ให้ได้ชมกันตัวเป็นๆ วนดูสัตว์แต่ละจุด จนใกล้เวลาการแสดงช้าง ซึ่งทางสวนสัตว์เปิดเขาเขียวได้เปิดส่วนโซนแสดงช้างแห่งใหม่ Elephant Learning Station เมื่อช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา โดยการทุ่มงบสร้างสระน้ำขนาดใหญ่ สูงกว่า 4 เมตร กว้างกว่า 30 เมตร ในรูปแบบมาตรฐานสากล ให้ช้างได้ลงไปออนเซนในแบบฉบับไทยๆ แถมนักท่องเที่ยวยังได้เห็นอิริยาบถของช้างขณะที่ว่ายอยู่ใต้น้ำอย่างใกล้ชิด และที่ยังเป็นแห่งแรกของเอเชีย
ภาพได้รางวัลชมเชย ทริปชลบุรี โดย คุณสมชาย สงวนกชกร
ภาพได้รางวัลที่ 1 ทริปชลบุรี โดย คุณนิพนธ์ เกตุจรัส
มาถึงเวลาใกล้แสดง ด้วยความที่เราเน้นเรื่องการถ่ายภาพ จึงรีบมาจับจองมุมกันก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเยอะกว่านี้ เลือกทำเลนั่งปักหลักรอ ช้างยังไม่มา แต่ป้าน้ำขยับตัว รีบจับป้าน้ำไว้ กลัวแกลงไปแสดงแทนช้าง 555…. ป้าน้ำ รีบรับมุกทันที่ เห็นนักท่องเที่ยวเยอะกลัวทุกคนจะรอนาน ด้วยสปีริตได้จะลงไปแสดงแทน 555…. ป้าน้ำ นานๆ มาทีก็ยังคงความน่ารักมุกแพรวพราวเรียกร้อยยิ้มให้เพื่อนพ้องน้องพี่เสมอ ถึงเวลาพี่ใหญ่มาจริง ทุกคนหันไปสนใจกดภาพรัวๆ เพราะมีเวลาการแสดงรอบละประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งปกติ รอบเวลาโชว์ช้างว่ายน้ำ จะมีวันละ 2 รอบ คือ รอบเวลา 10.15 น. และ 14.15 น. แต่เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะเพิ่มรอบพิเศษ 12.15 น. เป็นสามรอบ ครั้งนี้ต้องบอกว่าเราโชคดีมากมาตรงช่วงเวลาพอดี จบการแสดงปล่อยทุกคนฟรีสไตล์ พี่ณัฐวุฒิ มาถามว่าแยกย้ายกันได้เลยใช่ไหม eyejung รีบตอบเลยว่าค่ะ เพราะว่าพวกเราโตแล้วจะไปไหนก็ได้ อิอิ… เจอกันตรงทางออกบ่ายโมงตรง ส่วนสมาชิกใหม่รอบนี้ อ.นพ ไม่ได้มาด้วย เดินตาม อ.โภช แทนแล้วกัน จุดหมายอยู่ที่กรงนกใหญ่ เพราะรู้สึกว่าจะร่มที่สุด แต่ก็ร้อนอบอ้าวมาก โชคดีที่ฝนไม่ตก นอกจากกรงนกใหญ่แล้วที่ที่ eyejung อยากถ่ายมากที่สุดคือ “มาร์โมเสท” หรือลิงแคระนั่นเอง เป็นลิงที่เล็กที่สุดในโลก ส่วนใหญ่พบในป่าฝนประเทศบราซิล เป็นที่รู้จักกันในนาม ลิงกระเป๋า มีขนฟู ดูน่ารัก และด้วยความที่มีนิสัยไม่โหดร้าย จึงมีผู้นิยมนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง รวมทั้งนักเลี้ยงสัตว์หายากในประเทศไทยด้วยเช่นกัน แต่ราคาค่อนข้างสูงตกตัวละประมาณ 100,000 บาทขึ้นไป ถือว่าเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างมีราคา ยืนเก็บภาพเจ้า “มาร์โมเสท” อยู่นาน เพราะกว่าจะถ่ายได้ มันวิ่งไปวิ่งมาไม่ยอมอยู่นิ่งๆ ซนเป็นลิงจริงๆ จนหิวข้าว ขอไปทานข้าวกันก่อน ที่จะเดินทางไปยังจุดต่อไป
ภาพได้รางวัลที่ 3 ทริปชลบุรี โดย คุณสุจารี ตันศิริ
ภาพได้รางวัลชมเชย ทริปชลบุรี โดย คุณชาคริต ปิ่นสวัสดิ์
จุดที่สองของวันนี้ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติ และอนุรักษ์ป่าชายเลน เพื่อการท่องเที่ยว จังหวัดชลบุรี อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ มีสะพานไม้ให้ได้เดินชมป่าโกงกาง มีความยาวกว่า 2,300 เมตร เป็นสะพานไม้ ที่ไว้เดินชมป่าชายเลนยาวที่สุดในประเทศและที่นี่ยังเป็นผืนป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นผืนสุดท้ายในจังหวัดชลบุรี มีเนื้อที่กว่า 300 ไร่ ให้เวลาเดินชื่นชมธรรมชาติชั่วโมงกว่าๆ ในการหาปูเจ้าฟ้าสิรินทร ซึ่งมาครั้งนี้เราหาไม่เจอเลย เจอแต่ปูแสม และปลาตีน ที่เรียกว่ามีเยอะมาก แต่ที่สร้างความสยองให้กับเราคือนอกจากสัตว์ที่เราเคยเห็นประจำของป่าโกงกาง ปูแสม ปูกามดาบ และปลาตีน รอบนี้เราเจองูที่เรียกว่าเยอะจนเราสยอง เป็นการบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นป่าแห่งนี้ได้อย่างดี แต่ใครอย่าทำของตกลงไปนะ เพราะคงไม่มีใครกล้าลงไปเก็บแน่ๆ งูชุมขนาดนี้ ให้เวลาชั่วโมงกว่าๆ แต่เราก็ยังเดินไม่ทั่ว เพราะมั่วแต่สอดส่องสายตาตามหาเจ้าปูก้ามดาบ จนเจอช่วงสะพานแขวน หลายคนบ่นว่ามันคลุกโคลนจนมอมแมมถ่ายไม่สวยเลย แหม่! ก็มันอยู่ในป่าเดินชายเลยนิหนา
ภาพได้รางวัลชมเชย ทริปชลบุรี โดย คุณพนัส ธีรภาพวงศ์
และแล้วเราก็เดินทางมายังจุดสุดท้ายของทริปนี้ คือ อ่างศิลา ที่ต้องบอกว่ามาครั้งนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อปีก่อนมากกกกกกกก ก ไก่ล้านตัว ด้วยเวลาครั้งนี้มีเวลาเหลือเฟือเลยมีโอกาสเดินไปฝั่งตลาดเก่า เห็นแล้วรู้สึกนี้มันเป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือนี้ ทำไมสภาพมันต่างกันกับตลาดอ่างศิลาขนาดนี้ ถ้ามาอ่างศิลาทุกคนจะรู้ว่าตลาดอ่างศิลาที่ใครๆ ต้องมาแวะซื้ออาหารทะเล ศาลเจ้านาจา และพระตำหนักมหาราช หรือตึกขาว เป็นตึกที่คู่กับตึกราชินีหรือตึกแดง เป็นจุดที่เราพาสมาชิกมาถ่ายภาพเมื่อปีที่แล้วที่ยังคงสวยงาม แต่พอมาปีนี้ต้องบอกว่าทางเจ้าหน้าที่ ที่ดูแล คงจะไม่ค่อยมีวิสัยทัศน์ นึกอยากจะตั้งป้ายตรงไหนก็ตั้งบดบังความสวยงามของสถาปัตยกรรม ไม่คำนึงว่าสองพระตำหนักนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดชลบุรี แล้วก็ดูเหมือนปล่อยปะละเลยจนดูทรุดโทรม และสกปรกจนน่าใจหาย ว่าที่นี่ คือ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของทาง อ.อ่างศิลา ทำไมถึงกลายสภาพเป็นแบบนี้ เมื่อตำหนักแดง ตำหนักขาว รกรุงรัง เราเลยหาที่พักร้อนเดินมาฝังตลาดเก่า แทบใจหายทำไม่มันเงียบขนาดนี้ ระยะทางทางจากทางตลาดอ่างศิลาไม่เกิน 500 เมตร แต่ตลาดเก่ากับไม่มีผู้คนนักท่องเที่ยวเลย มีโอกาสนั่งกินน้ำพูดคุยกับชาวร้านตลาด ก็ได้ความว่าผู้บริหารของทางอำเภอที่มาก็เปลี่ยนนโยบายกันไปมา จากเมื่อก่อนจะดันให้ตลาดเก่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว พอคนใหม่มาเปลี่ยนแผนไม่ส่งเสริมเหมือนเคย ชาวบ้านตาดำๆ เลยรับเคราะห์กรรมจากแนวทางบริหารงานของหน่วยงานของรัฐไป
นั่งพูดคุยกับชาวบ้านเพลินจนใกล้เวลากลับแสงเย็น วันนี้สิ่งที่เราลุ้นว่าจะไม่เจอฝนตก เราก็โชคดีพอแล้ว แต่เราจะได้แสงเย็นสวยๆ ไหม อันนี้ไปลุ้นกันต่อ เดินทางถึงเจอกลุ่มช่างภาพอีกทีมกลุ่มใหญ่ และสมาชิกเราบางส่วนจับจองพื้นที่ถ่ายภาพกัน เมื่อเห็นอย่างนั้นเลย หาที่ตั้งทำเลใหม่ ซึ่งฉากว่างเปล่ามาก รอเรือมาเข้าฉาก ก็ไม่มีสักลำ เลยถ่ายพวกเรากันเองก็ได้ความสร้างสรรค์ไปอีกแบบ เป็นการปิดท้ายทริปที่สวยงาม ได้ทุกอย่างที่ตั้งใจไว้ แถมฟ้าฝนก็ช่างเป็นใจ ทริปนี้ต้องขอขอบคุณทางสวนสัตว์เขาเขียวอีกครั้งที่ให้ความอนุเคราะห์เราด้วยดี Bye..eyejung
ภาพได้รางวัลที่ 2 ทริปชลบุรี โดย คุณเตโชทัย พันธ์น้อย
ภาพได้รางวัลชมเชย ทริปชลบุรี โดย คุณคีรีขันธ์ ไชยพร