เป็นธรรมเนียมของ FUJIFILM ที่มักจะออกกล้องมา 2 ระดับโดยมีระบบการทำงานที่ใกล้เคียงกันมาก แตกต่างกันที่รายละเอียดบางอย่างของตัวกล้องเพื่อให้มีกล้องตำแหน่งทางการตลาดไม่เหมือนกันแต่ว่าคุณภาพหลักของกล้องยังเหมือนกัน เพื่อตอบสนองคนที่ใช้กล้องแบบโหดๆ กับผู้ใช้กล้องทั่วไปที่ไม่ได้ใช้งานหนักนัก อย่าง X-Pro เป็นรุ่นบน จะมี X-E เป็นรุ่นรอง ส่วน X-T จะมีเลขตัวเดียวสำหรับการใช้งานหนัก และเลขสองตัวสำหรับการใช้งานทั่วไป  โดยที่ระบบการทำงานหลัก เซ็นเซอร์ ระบบประมวลผล และให้ไฟล์ภาพเหมือนกัน ตอนนี้ถึงคิวของ FUJIFILM X-T20 ซึ่งถือเป็นรุ่นประหยัดของ FUJIFILM X-T2 โดย FUJIFILM X-T20 ใช้เซ็นเซอร์ XTrans CMOS III และ X-Processor Pro รวมทั้งระบบโฟกัส และระบบการทำงานเกือบทั้งหมดยกมาจาก FUJIFILM X-T2 เรียกว่า FUJIFILM X-T20 คือรุ่นประหยัดราคาของ X-T2 แต่ไม่ประหยัดคุณภาพ ซึ่งตรงนี้เป็นข้อดีของ FUJIFILM ที่มักจะไม่ลดคุณภาพการใช้งานแม้ว่าจะทำกล้องรุ่นราคาประหยัดลงมาก็ตาม

จุดเด่นของ FUJIFILM X-T20 แทบจะยกมาจาก FUJIFILM X-T2 ทั้งหมด เช่น

  1. FUJIFILM X-T20 ใช้เซ็นเซอร์แบบ X-Trans CMOS III ขนาด APS-C ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ซึ่งมีการจัดเรียงฟิลเตอร์สีด้านหน้าแบบ Random ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ FUJIFILM เพื่อป้องกันการเกิดลายเสื่อ (Moire) ทำให้ภาพมีความคมชัดและได้รายละเอียดสูงสุด ส่วนวงจรด้านในใช้ทองแดงเพื่อการส่งผ่านข้อมูลที่รวดเร็วมากขึ้น และมีการเพิ่มขนาดเซลรับแสงเพื่อเพิ่มความไวแสงและเพิ่มอัตราส่วนสัญญาณภาพต่อสัญญาณรบกวน (Signal/Noise Ratio)

2. ระบบประมวลผลใช้ X-Processor Pro เช่นเดียวกับ FUJIFILM X-T2 ส่งผลให้ความเร็วในการทำงานของกล้อง รวมไปถึงสัญญาณรบกวน ความไวแสง สีสันของภาพที่ได้เหมือนกับรุ่น X-T2 ด้วยเช่นกัน

3. จอ LCD หลังเป็นแบบ Touch Screen สามารถเลือกจุดโฟกัส ขยายภาพผ่านระบบ Touch Screen และปิดการทำงานได้ด้วยสำหรับคนที่ไม่ชอบระบบ Touch Screen

  1. ระบบโฟกัสยกมาจาก X-T2 มีทั้งจุดเดียว โซน และพื้นที่กว้าง เลือกขนาดพื้นที่และตำแหน่งการทำงานได้ ในระบบ AF-C สามารถเลือกรูปแบบการทำงานได้ 5 รูปแบบ
  2. สามารถถ่ายวิดีโอ 4K 30fps ได้นาน 10 นาที
  3. มีโหมดมีฟิล์ม Acros ขาวดำให้ใช้งาน
  4. มี Time Lag ของการแสดงภาพเพียง 0.005 วินาที
  5. ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุดถึง 14 ภาพต่อวินาที

 

สิ่งที่ FUJIFILM X-T20 แตกต่างไปจาก FUJIFILM X-T2 คือ

  1. ตัวกล้องอยู่บนพื้นฐานของ X-T10 ขนาดตัวกล้องเล็ก น้ำหนักเบา แต่ยังคงเป็นโครงสร้างโลหะอลูมิเนียมอัลลอยด์
  2. ตัวกล้องไม่มีซีลป้องกันความชื้นและฝุ่นละออง แต่ยังสามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมแย่ๆ ได้ไม่เป็นปัญหา ให้ระวังและทำความสะอาดหลังจากใช้งานเสร็จ
  3. ใช้การ์ด SDC USH I 1 ช่อง
  4. จอหลังพลิกแนวนอนได้ แต่พลิกแนวตั้งไม่ได้
  5. ไม่มี Focus Shifter การเลือกจุดโฟกัสสั่งงานผ่าน Touch Screen และปุ่มควบคุม 4 ทิศทาง
  6. มี Touch Screen ให้ใช้งาน
  7. ช่องมองภาพอัตราขยาย 0.62 เท่า ความต่อเนื่อง 54.54 ภาพต่อวินาที เล็กกว่า XT2
  8. ไม่มี Battery Grip
  9. ไม่มีระบบ Custom AF-C Tracking
  10. เวลาในการถ่าย 4K VDO ได้ 10 นาที ส่วน X-T2 ได้ 30 นาที เมื่อใส่กริป
  11. ไม่มีโหมดสี F-Log
  12. ความเร็วชัตเตอร์ 1/4000 วินาที ส่วน X-T2 ได้ 1/8000 วินาที
  13. ชัตเตอร์อายุการใช้งาน 150,000 ครั้ง
  14. มีแฟลชในตัว

ตัวกล้องของ FUJIFILM X-T20 มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบามากเพียง 383 กรัม เท่านั้น คนที่ชอบถ่ายภาพท่องเที่ยว ต้องการกล้องน้ำหนักเบาไม่เป็นภาระในการใช้งานต้องชอบแน่ๆ รวมทั้งสาวๆ ที่เริ่มจริงจังกับการถ่ายภาพสามารถขยับมาเล่น FUJIFILM X-T20 ได้แบบสบายกระเป๋าและสบายเวลาจับถือด้วย ตัวกล้องยังคงรูปแบบเดียวกับ X-T10 คือเป็นกล้องทรง DLSR ด้านบนมีวงแหวนควบคุมชัตเตอร์ ชดเชยแสง และเลือกระบบถ่ายภาพที่ด้านบนตัวกล้อง มีโหมดถ่ายภาพทั้งแบบปรับตั้งเอง อัตโนมัติ Advance Filter ถ่ายภาพซ้อน พาโนรามา ฯลฯ ปุ่มกดชัตเตอร์สามารถเสียบสายกดชัตเตอร์กลไกได้ด้วย มีแฟลชขนาดเล็กให้ใช้งานยามฉุกเฉิน กริปหุ้มยางให้จับได้ถนัดไม่ลื่นมือ ส่วนใครมือใหญ่อาจจะต้องติดกริปเสริมไปหน่อยเพื่อให้เต็มไม้เต็มมือมากขึ้น ด้านหน้ามีวงแหวนปรับค่าเช่นเดียวกับด้านหลังสามารถตั้งให้ทำงานอะไรก็ได้ ด้านหลังเป็นช่องมองภาพแบบ EVF มีปุ่มแสดงภาพ ลบภาพ ล็อคโฟกัสและความจำแสง ปุ่ม Q เมนู และปุ่มควบคุม 4 ทิศทาง และปุ่ม Display/Back ฐานกล้องมีช่องใส่แบตเตอรี่และการ์ด SDHC USH I ส่วนเมนูการทำงานของกล้องเป็นรูปแบบเดียวกับ X-T10 และ X-T2 แบ่งหมวดหมู่ชัดเจนและใช้งานได้ง่ายมาก ตรงนี้คนใช้ FUJIFILM น่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว

ระบบ Touch Screen ที่เพิ่มเข้ามาช่วยให้กล้องใช้งานได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น ตัว Touch Screen เลือกได้ว่าจะปิด สั่งถ่ายภาพจาก Touch Screen หรือทำให้ทำงานเฉพาะการเลือกจุดโฟกัส การตอบสนองของ Touch Screen อยู่ในระดับค่อนข้างดี ไม่ได้เร็วแบบหน้าจอมือถือชั้นดี แต่ก็ไม่ได้ช้า พอแตะปุ๊ปแค่แว็บเดียวจุดโฟกัสก็จะเลื่อนตามมาทันที ระบบ Touch Screen ทำงานเฉพาะในส่วนการเลือกระบบโฟกัสเท่านั้น ระบบอื่นๆ ยังสั่งผ่านเมนูหรือปุ่ม Q เหมือนเดิม

 

FUJIFILM X-T20 กับการใช้งานจริงภาคสนาม

FUJIFILM X-T20 ตัวต้นแบบออกมาพร้อมๆ กับ FUJIFILM GFX พอดีผมต้องไปทดสอบ GFX จึงไม่ได้ใช้งาน X-T20 เลย จนกระทั่งกล้องทดสอบเวอร์ชั่นผลิตจริงออกมา ตัวกล้องและ Firmware สมบูรณ์เรียบร้อยออกมาแล้ว งานของ GFX เสร็จแล้วจึงได้มีโอกาสเอา FUJIFILM X-T20 ไปใช้งานในภาคสนามจริงสักที ตัวกล้อง FUJIFILM X-T20 ยังคงแทบจะเหมือนกับ X-T10 คนส่วนใหญ่จึงคิดว่ามันคือ X-T10 อัพเกรด ซึ่งถูกครึ่งหนึ่ง จริงๆ ต้องบอกว่ามันคือ X-T2 ราคาประหยัดมากกว่า เพราะยกระบบการทำงานมาจาก X-T2 เลย งานประกอบกล้องดูเรียบร้อยแน่นหนา แม้ว่าจะไม่มีซีลป้องกันความชื้นและฝุ่นละออง แต่ก็ยังสามารถนำไปใช้งานได้ตามปกติ แต่เวลาลุยหนักๆ เช่นกลางฝน หรือมีลมพัดแรงๆ ประเภทมีแรงอัดกระทำกับตัวกล้อง แนะนำให้หาผ้ามาคลุมกันไว้สักหน่อยเพื่อไม่ให้ฝุ่นหรือน้ำเข้าไปในกล้อง (ถ้าเป็นคนรักษากล้อง กลัวขายมือสองแล้วราคาตก) ผมเองเอา FUJIFILM X-T20 ไปขึ้นเขาถ่ายภาพดาว รวมทั้งเข้าถ้ำแม่ละนาซึ่งเดินโหดอยู่เหมือนกัน กล้องนี่มีแต่โคลนเลอะเต็มไปหมดก็ยังไม่ได้มีปัญหาอะไร จริงๆ กล้องถ่ายภาพทุกตัวแม้ไม่เป็น WR สามารถลุยได้ในระดับหนึ่งนะครับ ไม่ต้องกังวลอะไรมาก โดนน้ำค้างน้ำกระเซ็นเข้ามา หรือถ่ายภาพตอนลมพัดได้สบาย แต่ถ้าหนักมากๆ กล้องประเภท WR จะปลอดภัยมากกว่า   

ตัวกล้องค่อนข้างเล็กและเบามาก เรื่องเบานี่ทำให้ผมเอา FUJIFILM X-T20 สะพายคอระหว่างปีนเขาได้แบบไม่รำคาญ ไม่เป็นภาระคอเลย ปกติผมไม่ชอบสะพายกล้องที่คอเพราะมันรำคาญเวลามีอะไรมารั้งแต่กับ FUJIFILM X-T20 นี่สบายมากจริงๆ เพราะมันเบาสบายไม่เป็นภาระ ชักติดใจกล้องเล็กอย่าง FUJIFILM X-T20 เลย เวลาเดินป่าปีนเขา การจับถือทำได้ถนัดสำหรับคนมือเล็ก ส่วนผมมือใหญ่ต้องหากริปมาเสริม FUJIFILM X-T20 ใช้กริปร่วมกับ X-T10 ได้เลย พอได้กริปมาเลยจับได้ถนัดมากขึ้น สิ่งแรกที่ทำคือการทดสอบเรื่อง Noise/ISO และหาค่า Dynamic Range โดยการถ่ายภาพชาร์จทดสอบ

ในส่วนของ Noise ที่ความไวแสงต่างๆ ที่ ISO 200-1600 ใช้งานได้แบบชิลๆ สบายๆ ไม่ต้องห่วงกังวลเลย พอ ISO 3200 เริ่มมี Noiseเข้ามากวนบ้าง ที่ ISO 6400 จะเห็น Noise ชัดเจนมากขึ้น ส่วน ISO 12800 มี Noise ชัดเจนควรใช้เฉพาะที่จำเป็นมากกว่า ระดับของ Noise พอๆ กับ X-T2 ไม่ได้แตกต่างกัน ที่ความไวแสงสูงตัว Noise ก็จะเป็น Luminance Noise ในลักษณะเป็นจุดดำเทา ไม่ได้เป็นปื้นสีทำให้ภาพดูไม่น่าเกลียด ผมทดสอบหาค่า Dynamic range ของกล้องโดยการถ่ายภาพ Color Chart ไล่มืดไปสว่างจาก +5 ถึง -8 stop แล้วดึงกลับมาที่ปกติ FUJIFILM X-T20 สามารถดึงภาพตั้งแต่ +2 ถึง -5 stop กลับมาที่ปกติได้ ที่อันเดอร์มากกว่านั้นไม่สามารถหาได้เพราะโปรแกรม Photoshop ดึงได้แค่นี้เอง หากคิดเป็นช่วงของ Dynamic Range ก็คือ +4 ถึง -7 stop (ไปได้มากกว่า -7) ที่ภาพ -5 stop เมื่อดึงกลับมาแทบจะไม่เกิด Chroma Noise เลยเวลาดึงกลับมา ความสามารถในการดึงภาพเรียกว่าอยู่หัวแถวในกลุ่มกล้อง APS-C Sensor ก็ว่าได้ ผมลองเอาไปถ่ายภาพจริงที่มีความแตกต่างของแสง 11 stop โดยกำหนดค่า Hilight ให้อยู่ที่ +3.5 ส่วน Shadow ก็จะไปอยู่ที่ -7.5stop แล้วดึงภาพกลับมาปกติกับลักษณะภาพแบบ High Key กำหนดส่วนสว่างไว้ที่ +2.5 stop ส่วนมืดที่สุดในภาพอยู่ที่ -2 แล้วดึง -2 กลับมาที่ 0 เพื่อให้ภาพเป็นลักษณะ High Key ใช้โปรแกรม Adobe Photoshop ตัวภาพสามารถดึงกลับมาได้แบบสบายๆ ลองดูภาพตัวอย่างก่อนและหลังดึงกลับมาจะเห็นว่าดึงได้ดีเยี่ยมมาก โดยที่ผมไม่ต้องไปแก้ Chroma Noise เลย

หลังจากการทดสอบ Noise และ DR แล้วผมนำกล้องออกไปถ่ายภาพจริง ทริปแรกเป็นการไปเที่ยวดอยลังการน้อยลังกาหลวงที่อุทยานแห่งชาติขุนแจ เชียงราย ใครที่เคยไปดอยลังกาจะรู้ว่าทางเดินนั้นโหดเอาการ ทั้งไกลและชันมาก ต้องเดินตามสันเขาขึ้นยาวตลอด ระบบของกล้อง FUJIFILM X-Series ที่เล็กเบาช่วยได้มากทีเดียว ผมสามารถแบกกล้องและเลนส์ทั้งเซ็ท มีกล้อง X-T20 เลนส์ 14, 18-55, 90 ซึ่งแค่ 3 ตัว ก็ครอบคลุมการถ่ายภาพได้ทุกรูปแบบ ส่วนมากผมติดเลนส์ 18-55 เอาไว้ถ่ายภาพตลอดทางโดยการสะพายคอเอาไว้ตลอด เดินไปก็ถ่ายภาพไปเก็บบรรยากาศระหว่างทาง ซึ่งไม่เป็นภาระในการเดินทางเลย น้ำหนักกล้องทั้งระบบเบากว่าน้ำหนักกระเป๋ากล้องเสียอีก นี่เป็นข้อดีมากๆ ของ FUJIFILM X-T20 นอกจากภาพนิ่งแล้วผมยังถ่ายภาพวิดีโอ 4K ระหว่างการเดินทางเอาไว้ด้วย ส่วนมากใช้โหมดสี Velvia เพื่อให้สีจัดจ้านสไตล์ภาพทิวทัศน์ รอบนี้เลยได้ภาพระหว่างการเดินทางขึ้นเขาเอาไว้เยอะมาก ผมถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่จุดชมวิวด้วย X-T20 แต่ดันตั้งไฟล์ภาพพลาดเป็น JPG อย่างเดียวไม่มี RAW ดีที่วัดแสงปรับสีหลังกล้องไว้ไม่งั้นมีจ๋อยแน่ๆ สภาพอากาศตอนที่ไปค่อนข้างขุ่นมัวเพราะหมอกควันทางภาคเหนือเยอะมาก ผมต้องปรับค่ากล้องให้ Hilight -2 ส่วน Shadow +1 เพื่อเพิ่มการไล่ระดับโทนส่วนมืด ไม่งั้นภาพจะแบนมาก เวลาปรับภาพอย่างไรก็เห็นที่จอ EVF เลย สะดวกมากไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือเก่าก็ตาม

ระบบถ่ายภาพต่อเนื่อง 14 ภาพต่อวินาที เป็นอะไรที่ยอดมาก  ผมมีถ่ายภาพเพื่อนๆ ในทริปกระโดดกันอยู่ที่จุดชมวิว สามารถเก็บภาพตอนกระโดดขึ้นจุดสูงสุดได้ทุกช็อท มาทำ Animation สนุกๆ ได้เลย ไม่ว่าใครก็กดชัตเตอร์ก็ไม่พลาด FUJIFILM X-T20 มีความเป็นมิตรกับผู้ใช้มาก ความเร็ว ความแม่นยำในการปรับความชัด การแสดงภาพที่จะได้บนจอ EVF ไม่ว่าใครก็ใช้กล้อง FUJIFILM X-T20 ถ่ายภาพสวยๆ ได้หมด ในช่วงถ่ายภาพดาวกลางคืนก็เป็นอะไรที่ง่ายมากสำหรับ FUJIFILM X-T20 ความสว่างของ EVF และความไวต่อแสงทำให้สามารถโฟกัสดาวบนท้องฟ้าในระบบ MF โดยการขยายภาพที่จอไป 100% แล้วโฟกัสดาวโดยตรงได้เลย ขากลับจากดอยลังกา เป็นทางลงชันมาก แทบจะคลานลง ผมก็ยังสะพายกล้อง FUJIFILM X-T20 แล้วถ่ายภาพไปตลอดทางได้ไม่เป็นภาระเลย กลับมาติดใจ FUJIFILM X-T20 เวลาไปเดินป่าต้องเอาเจ้าตัวนี้ไปด้วย จะได้ถ่ายภาพระหว่างทางสนุกๆ ได้ ส่วน X-T2 ให้ลูกหาบแบกขึ้นไปสบายกว่าเยอะเลย

เสร็จแล้วผมมีงานต้องสอนการใช้กล้อง FUJIFILM GFX ให้กับทางฟูจิฟิล์ม มีถ่ายภาพสาวๆ โดยใช้ทั้งแฟลชและแสงธรรมชาติ ในการใช้งานแฟลชสตูดิโอ ผมใช้ Wirless Trigger เสียบที่ Hot Shoe ของตัวกล้อง แล้วปิดระบบ Preview ของ EVF ซะ เท่านี้ก็ใช้งานกับแฟลชสตูดิโอได้ไม่เป็นปัญหา ความสว่างของไฟนำก็มากพอไม่เกิดการหน่วงของภาพในช่องมองภาพเวลาใช้งานในสตูดิโอ ถ่ายภาพบุคคลได้สบายๆ ผมใช้โหมดสีแบบ Classic Chrome ในการถ่ายภาพน้องอายที่มาเป็นแบบให้ในวันนั้น บางช่วงถ่ายภาพย้อนแสงแรงๆ โดยไม่มีรีเฟกเตอร์หรือไฟเสริมช่วยเลยแม้แต่น้อย อาศัยคุณภาพเลนส์ FUJINON จัดการกับรายละเอียดส่วนเงาแล้ววัดแสงแม่นยำผ่านจอ EVF และ Histogram ก็ทำให้ได้ภาพอย่างที่ต้องการจบหลังกล้องได้เลย ผมตั้งค่า Hilight -2 และ Shadow -2 เพื่อดึงรายละเอียดให้มากที่สุดเพิ่มเติมเข้าไปด้วย ภาพที่ได้มี Hilight นุ่มนวล โทนสีใกล้เคียงตาเห็น สีผิวขาวอมชมพูแบบที่ปกติไม่ค่อยจะปรับแบบนี้ บอกตรงๆ ว่าติดในเจ้า X-T20 เอามากเลย

จากนั้นมีเพื่อนๆ ชวนไปถ่ายภาพดงตาลที่ปทุมธานี สามโคก  ผมก็ไปด้วยพร้อมเลนส์ 18-55 และ 100-400  ตั้งใจเก็บพระอาทิตย์ดวงใหญ่เป้งๆ ที่ดงตาล ช่วงนี้พระอาทิตย์จะแดงมากและแดงจนขึ้นสูงด้วยเพราะมีหมอกควันเยอะที่พื้นล่าง ผมใช้เลนส์ 100-400 กับ X-T20 ติดบนขาตั้งกล้อง ได้ภาพดังใจมาก ตั้งสี Velvia Color+4 Shadow-1 Hilight -1 จบหลังกล้องได้เลย เป็นภาพดงตาลที่สวยที่สุดที่เคยถ่ายมา โชคดีที่ได้ทั้งสภาพอากาศและกล้องก็ช่วยเยอะมากๆ ด้วย

จากนั้นผมไปที่ WakePark เพื่อถ่ายภาพคนเล่นเวคบอร์ด เป็นการทดสอบความเร็วในการถ่ายภาพเคลื่อนไหว ทั้งส่วนความเร็วในการโฟกัส ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง ผมใช้ชัตเตอร์ไฟฟ้า 11 ภาพต่อวินาที AF-C แบบ Zone และใช้ AF-C Tracking แบบที่ 2 ที่เป็นรูปเสือดาวและเลนส์ 100-400 มม. ส่วนระบบถ่ายภาพแบบ Manual ตั้งชัตเตอร์ที่ 1/1000 วินาทีเป็นส่วนใหญ่ ความไวแสงอยู่ในช่วง ISO 200-800 แล้วแต่สภาพแสง FUJIFILM X-T20 เริ่มสต๊าทโฟกัสได้เร็วใกล้เคียง X-T2 มาก จากนั้นจะจับโฟกัสติดตามวัตถุได้ดีมาก ระบบโฟกัสเหมือนจะฉลาดกว่า X-T2 อยู่นิดๆ (X-T2 จะมีอัพเดท Firmware ออกมาเร็วๆ นี้) ผมถ่ายภาพแบบแน่นๆ ถ้าโฟกัสพลาดนี่หลุดเลยไม่มีความชัดลึกมาช่วย ภาพส่วนมากจะเข้าโฟกัสแทบจะทั้งหมด มีหลุดบางภาพเท่านั้นซึ่งเป็นเพราะจุดโฟกัสหลุดออกไปนอกวัตถุแว็บนึง อาการนี้เป็นหมดทั้งกล้อง DSLR และ MLR ไม่วาจะแพงแค่ไหนก็ตาม ถ้ามีการแพนกล้องตามวัตถุก็มีหลุดอยู่บ้างเหมือนกัน  แต่ปัญหาใหญ่ๆ ไม่ได้อยู่ที่โฟกัส แต่มาจากคนถ่ายแพนกล้องตามไม่ทันเพราะถ่ายแน่นมากจะไม่ครอปภาพเลย ได้ก็ได้ หลุดก็หลุดไปเลย

ความเร็วในการถ่ายภาพไม่มีปัญหา เร็วปรี๊ดๆ ส่วนบัฟเฟอร์ก็ใหญ่มากพอที่จะถ่ายภาพ Action ต่อเนื่องยาวๆ แบบเหลือเฟือ  โดยปกติเราจะถ่ายภาพในช่วงจังหวะสำคัญประมาณ 2-3 วินาที ก็หยุด ข้อดีของ FUJIFILM X-T20 คือ ช่วงที่เขียนข้อมูลจากบัฟเฟอร์ลงการ์ดสามารถปรับตั้งกล้องได้หมด จะดูภาพ เข้าเมนูได้ ไม่ต้องรอกล้องเคลียร์บัฟเฟอร์จนเสร็จ  อันนี้ทำให้ไม่เสียจังหวะการทำงาน

สุดท้ายผมมีเอากล้องไปถ่ายภาพทริปถ้ำแม่ละนา เป็นทริปที่โหดกับกล้อง FUJIFILM X-T20 อย่างมาก เพราะเต็มไปด้วยโคลน ความชื้น ไม่มีแสงเลยต้องใช้ไฟฉายตลอดเวลา บางช่วงก็ว่ายน้ำ บางช่วยลุยน้ำลึกพอควร กล้อง FUJIFILM X-T20 สามารถใช้งานในสภาพโหดๆ ได้สบายมาก ตัวกล้องนี่เลอะโคลนดินทรายเต็มไปหมด  ระบบ AF ทำงานดีมากแม้มีเพียงแสงจากไฟฉายคาดหัว ผมถ่ายวิดีโอ 4K เป็นหลักโดยใช้ระบบโฟกัสแบบ AF-C ตัวกล้องโฟกัสเร็วและนุ่มนวล แม่นยำมาก ผมได้คลิปวิดีโอมาลง Youtube สบายๆ เลย หลังจากทริปแม่ละนา กล้อง FUJIFILM X-T20 ก็กลายเป็นกล้องประจำตัวผมไปอีกรุ่นจากที่ปกติจะพก X-T2 ออกไปถ่ายรูปเป็นหลัก X-T20 ก็จะมีช่วงลดภาระของ X-T2 และกลายเป็นกล้องเก็บภาพระหว่างการเดินทางแทนการใช้สมาร์ทโฟนไปด้วย ผมมีถ่ายภาพวิวช่วงพระอาทิตย์ตกกลางคืน ต้องบอกว่า X-T2 ทำได้แบบไหน X-T20 ก็ทำได้แบบนั้นด้วยเช่นกัน ภาพมีรายละเอียดส่วนเงาชัดเจน ดึงได้เยอะใน RAW File ไม่ต้องห่วงกังวลเรื่อง Noise เลย

บทสรุปสำหรับ FUJIFILM X-T20

FUJIFILM X-T20 คือ FUJIFILM X-T2 ราคาประหยัด เป็นกล้องที่คุ้มราคามากที่สุดของ FUJIFILM สำหรับคนที่ไม่ได้ลุยหนักลุยแหลกตัวนี้เหมาะมาก ช่วงการรับแสงกว้าง สีสวย เบา คล่องตัว ใช้งานซีเรียสก็ได้ งานสบายๆ ก็แจ่ม โฟกัสไว ช่องมองภาพใสเคลียร์ ถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วเหลือเฟือ ทัชสกรีนใช้งานคล่องและสะดวก หากจะถามว่าอะไรที่ไม่ชอบใน FUJIFILM X-T20 ก็คงมีแต่ตัวมันเล็กไปสำหรับมือผมเท่านั้นเอง เลยต้องติดกริปเพิ่ม แต่มันคงเป็นปัญหาของผมเท่านั้น เชื่อว่าคนส่วนมากจะชอบขนาดที่เล็กเบาในประสิทธิภาพสูงลิบของ FUJIFILM X-T20 อย่างแน่นอน