เอปสัน สานต่อโครงการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำเครื่องผลิตกระดาษ PaperLab จากกระดาษเหลือใช้ในสำนักงาน มาใช้งานเป็นครั้งแรกที่สำนักงานประจำภูมิภาคแห่งใหม่ที่สิงคโปร์ พร้อมเตรียมขยายสู่ตลาดอาเซียนในปีหน้า
นายซิ่ว จิน เกียด กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาค เอปสัน สิงคโปร์ กล่าวในงานเปิดตัวสำนักงานประจำภูมิภาคแห่งใหม่ที่ Alexandra TechnoPark ซึ่งประกอบด้วยโซลูชันเซ็นเตอร์ 2 แห่ง ที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และโซลูชันต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับธุรกิจ และสิ่งแวดล้อมทั่วภูมิภาค พร้อมตอกย้ำให้เห็นว่าสิงคโปร์ถือเป็นศูนย์รวมของธุรกิจเอปสันในภูมิภาคนี้
นายซิ่ว จิน เกียด กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาค เอปสัน สิงคโปร์
“ความมุ่งมั่นของเอปสันในภูมิภาคนี้ ไม่ใช่แค่การเพิ่มผลิตผล แต่รวมถึงการเดินหน้าสร้างความยั่งยืน โดยทางเอปสันพร้อมที่จะร่วมมือกับรัฐบาลสิงคโปร์ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามแผนสิงคโปร์กรีน 2030 ที่จะหันมาใช้พลังงานสะอาด ลดปริมาณขยะฝังกลบต่างๆ”
นอกเหนือจากการเปิดสำนักงานแล้ว เอปสัน ยังได้แนะนำเครื่อง PaperLab เครื่องแรกในภูมิภาค หลังจากเปิดตัวเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ที่จะเข้ามาเป็นโซลูชันสำหรับองค์กรธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยการผลิตกระดาษขึ้นมาใหม่จากกระดาษใช้แล้วในสำนักงาน ด้วยเทคโนโลยี Dry Fiber ที่ไม่มีการใช้น้ำในกระบวนการผลิต ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ความสามารถของ PaperLab คือการนำกระดาษใช้แล้ว มาผลิตใหม่ผ่าน 3 ขั้นตอน ทั้งการย่อยให้เป็นเส้นใย (Defibrating) การผสานเส้นใย (Binding) และการขึ้นรูปกระดาษ (Forming) ทำให้สามารถกำหนดขนาดความหนา ขนาด และสีของกระดาษได้ด้วย เบื้องต้น PaperLab จะเริ่มทำตลาดในสิงค์โปร์ปีนี้ และมีโอกาสนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยช่วงปี 2565
ขณะเดียวกัน เอปสัน ยังได้รวบรวมโซลูชันที่ช่วยทรานฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัล อย่างการนำเสนอเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท สแกนเนอร์ โซลูชั่นเครื่องพิมพ์ใบเสร็จ โปรเจกเตอร์ และเครื่องพิมพ์หน้ากว้างสำหรับการพิมพ์ฉลากอุตสาหกรรม ภาพถ่าย ป้ายโฆษณา และสิ่งทอ รวมถึงการนำหุ่นยนต์แขนกลมาใช้ในโรงงานผลิตต่างๆ
ขณะเดียวกัน เอปสัน ยังได้รวบรวมโซลูชันที่ช่วยทรานฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัล อย่างการนำเสนอเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท สแกนเนอร์ โซลูชั่นเครื่องพิมพ์ใบเสร็จ โปรเจกเตอร์ และเครื่องพิมพ์หน้ากว้างสำหรับการพิมพ์ฉลากอุตสาหกรรม ภาพถ่าย ป้ายโฆษณา และสิ่งทอ รวมถึงการนำหุ่นยนต์แขนกลมาใช้ในโรงงานผลิตต่างๆ
นายซิ่ว ยังให้ความเห็นถึงธุรกิจเอปสันในเมืองไทยว่า ยังมีโอกาสในการเจริญเติบโตอีกมาก เมื่อเทียบกับในภูมิภาคนี้ เพราะถ้ามองเทียบกับสิงคโปร์ขนาดธุรกิจของเอปสันในไทยสูงกว่าสิงคโปร์ประมาณ 40% เท่านั้น และยังมีช่องว่างจากจำนวนประชากรที่มากกว่าสิงคโปร์ถึง 12 เท่า ทำให้เอปสันยืนยันที่จะเข้ามาลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ความยั่งยืนเป็นประเด็นทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย มีจำนวนธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ตระหนักถึงความจำเป็นในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ผลักดันให้ความยั่งยืนเติบโตขึ้นในสังคมธุรกิจของประเทศไทย ด้วยผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่เหมาะสม
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด
“การมีสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในสิงคโปร์จะช่วยให้เอปสันประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญกับธุรกิจหุ่นยนต์แขนกล และเครื่องพิมพ์ฉลากอุตสาหกรรม ได้ประโยชน์จากการจัดแสดง และเปิดโอกาสให้เข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น ทั้งผ่านระบบเวอร์ชวลในช่วงเวลานี้ และเมื่อเดินทางได้การบินไปสิงคโปร์ก็จะสะดวกกว่าญี่ปุ่น หรืออิตาลีที่ต้องใช้เวลาในการเดินทาง”