เรื่อง + ภาพ : eyejung
หลังจากเราห่างหายเรื่องท่องเที่ยวมานาน และห่างหายจากการเขียนบทความมานานพอควร วันนี้สถานการณ์ไวรัส COVID-19 กลับมาระบาดรอบสอง ทำให้มีเวลามานั่งดูภาพเก่า วันนี้เราก็จะขอย้อนความหลังกันกลับการไปเที่ยวหัวหิน ที่นิยามว่า “เมืองแห่งความสุข” หลังจากที่คลายล็อคดาวน์รอบแรก ผู้คนก็กระหายการท่องเที่ยว เรียกว่าถนนทุกสายมุ่งสู่แหล่งท่องเที่ยว เราได้ยินข่าวรถติดหาดบางแสนเป็นเวลาหลายชั่วโมง ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ ทุกคนอยากออกไปตากอากาศ แต่ว่ามันจะเป็นช่วงฤดูฝน ถ้าคิดอยากไปตากอากาศสถานที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ มากสุด และทะเลสวยงามคงจะหนีไม่พ้นเมืองหัวหินไปไม่ได้
ตัว eyejung เองก็เช่นกัน คลายล็อคบุ๊ป จัดทริปไปเที่ยวหัวหินทันที่คิดถึงกลิ่นไอทะเลแย้ววว นัดออกเดินทางกัน 9.00 โมงเช้า คิดว่าไม่เกินเที่ยงคงถึง แต่เปล่าเลย ผู้คนก็หลังไหลไปเที่ยวเหมือนกัน เป็นการไปถึงหัวหินที่ใช้เวลาเดินทางนานมาก ทริปนี้เราถึงหัวหินบ่ายสามโมงกว่าๆ เข้าที่พัก เดินเล่นถ่ายภาพ ออกไปหาอะไรทาน ความแอดอัดของร้านอาหารทริปนี้เรียกว่าเนื่องแน่นรอคิวกันแบบครึ่งชั่วโมงนี้คือขั้นต่ำ บรรยากาศของการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาแล้ว แม้ว่ามันจะรู้สึกว่าไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง แต่ก็ดีใจที่ได้ออกมาเที่ยว
พลาดพลั้งไปกลับทริปแรกไปแล้ว แต่อารมณ์อยากไปเที่ยวมันยังมีอยู่เหมือนเดิม อีกทั้งรัฐบาลจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวกับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เราหนึ่งในฐานะคนไทยที่ชอบเที่ยวไม่พลาดเป็นหนึ่งในการร่วมสนับสนุนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทริปนี้เรายังเลือกที่จะไปหัวหินเหมือนเดิม เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไปง่าย และมีความพร้อมที่เราต้องการ ทริปนี้เรายังเป็นทริปเหมือนมาเปลี่ยนที่นอนอีกเช่นเคย เลยจะเป็นทริปรีวิวที่พักไปด้วย เพราะเราเลือกมาพัก 2 คืน และเปลี่ยนที่นอนไปเรื่อยๆ ตามคอนเซ็ปต์ที่ตั้งใจไว้ ก่อนมาดูรีวิว เจอที่พักน่ารัก ซึ่งใช้สิทธิเราเที่ยวด้วยกันได้ ตรงความตั้งใจ เพราะอยากได้ที่พักที่มีอ่างอาบน้ำ อารมณ์แบบว่าลงไปแช่ในอ่างแล้วฟองเยอะๆ ดูละครเยอะไป 555… เลยอยากมีโมเม้นท์แบบนั้นบ้างอ่ะเนอะ
คืนแรก
จองที่พักได้ที่ โรงแรม วิลล่า เซวิลล์ หัวหิน ที่พักไม่ติดทะเล แต่ติดทางรถไฟ 555… ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะไปทะเลไม่ใช่หรือ แต่ด้วยว่าเขาไปส่องรีวิว แล้วเห็นบรรยากาศโรงแรมน่ารักมาก สไตล์ เซบียา ใจกลางเมืองหัวหิน ถึงที่นี่จะเป็นที่พักเล็กๆ ที่นี่เค้าได้แรงบันดาลใจในการออกแบบตกแต่งมาจากเมืองเซบียา ประเทศสเปน ก้าวเข้ามาเราจะมีความรู้สึกเหมือนเปิดประตูเข้าบ้านที่พักค่อนข้างเป็นส่วนตัว “Villa Seville Hua Hin” จะแบ่งออกเป็นวิลล่าหลังใหญ่ทั้งหมดสี่หลังล้อมรอบสระน้ำ โดยวิลล่าแต่ละหลังจะแบ่งออกเป็นสองห้องนอน แยกออกจากกันค่ะ รวมเป็นทั้งหมด 8 ห้อง 2 ห้อง จะมีพื้นที่ใช้ส่วนกลางด้วยด้วย ถ้ามากับกลุ่มเพื่อน หรือครอบครัว ก็จองแบบเหมาวิลล่าได้เลย 2 ห้องนอนก็จะยิ่งเป็นส่วนตัวมาก แต่ใครมาพักแค่ 2 คน ก็มีความเป็นส่วนตัวอยู่ ภายในจะมีสวนเล็กๆ ให้ได้นั่งจิบน้ำชายามบ่าย หรือใครจะสั่งของว่างมาทานในบรรยากาศชมสวน ก็เก๋ไก๋อยู่ เหมาะมากกับคนที่ชอบถ่าย มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะ ส่วนในห้องต้องบอกว่าควรมากับคนสนิทๆ เท่านั้น จุดเด่นคือห้องน้ำซีทรู ตรงอ่างอาบน้ำจากุชชี่ใหญ่มากสามารถมองจากเตียงเข้าไปในห้องน้ำได้เลย ถึงมีม่านปิด แต่แอบมองเข้าไปก็เห็น ตัวประตูปิดฝ้าไม่สามารถปิดหมด เหมาะกับคู่รักมาพักด้วยกัน เพราะอ่างจากุชชี่ใหญ่มากสามารถลงไปแช่ได้ทั้ง 2 คน จุดเด่นที่ชอบอีกอย่าง คือ กระจกบานใหญ่มาก ห้องไม่เยอะ สงบ สะอาด ภายในห้องพัก กว้างขวาง
ข้อเสีย ติดกับ บาร์ และผับ เสียงดังค่อนข้างดังเข้ามาถึงในห้อง ที่ตั้งใกล้ทางรถไฟ เลยมีเสียงรถไฟดังมาก คนที่นอนหลับยากคงไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่ ก็ต้องทำใจนิดนึง
#โครงการเราเที่ยวด้วยกัน จ่ายเพียง 60%
เริ่มใช้สิทธิ์ ได้ถึง 31/03/64
วันธรรมดา ( อาทิตย์-พฤหัส ) 1,599 บาท 60 % เหลือ 959.40 บาท
วันศุกร์ 2300 บาท 60 % เหลือ 1,380 บาท
วันเสาร์ 2550 บาท 60 % เหลือ 1,530 บาท
ราคาไม่รวมอาหารเช้า ฟรีมินิบาร์ภายในห้องพักค่ะ อาหารเช้า American Breakfast ชำระเพิ่ม 400 บาท/ท่าน ค่ะ
แนะนำที่พักไปแล้ว ขอแนะนำของอร่อยของเมืองหัวหินกันบ้าง กับขนมตะโก้เสวย ของร้านเบญจพงศ์ ต้องบอกว่าเป็นร้านที่ใครอยากทานต้องตั้งใจมา และควรสั่งจองล่วงหน้า ครั้งนี้ eyejung ไม่ได้ตั้งใจทานตะโก้เลย แต่เดินผ่านหน้างานแล้วสะดุดตาตรงที่เขียนว่าตะโก้เสวยเนี่ย โฆษณามีผลสังเกตได้ ฮ่าฮ่าฮ่า จนต้องขอเข้าไปสอบถามได้ความว่าไม่มีแล้วจ้า อยากกินต้องสั่งจองไว้นะ แต่พรุ่งนี้ก็จะหยุด 1 วัน แล้วเราจะมีโอกาสได้กินไหมเนี่ย จนคุณป้าท่านสงสาร เลยแบ่งขายมาให้ 1 กล่อง ในราคา 60 บาท
ตะโก้เสวย ของร้านเบญจพงศ์ ร้านนี้เป็นร้านบ้านไม้เก่าๆ อยู่ใกล้กับร้านข้าวมันไก่ลมหวล จากที่เคยอ่านมา ตะโก้ร้านนี้ เคยขึ้นโต๊ะเสวยในรัชกาลก่อน จนเป็นที่มาของขนมตะโก้เสวย ใน 1 กล่องมีอยู่ประมาณ 16 ชิ้น ราคาอยู่ที่กล่องละ 60 บาท ถ้าใครอยากทานต้องมาแต่เช้ามาก เป็นขนมที่ทำด้วยความตั้งใจ คนอยากทานก็ต้องใจมาทาน ร้านตั้งอยู่บนถนนเดชานุชิต (ซอยหัวหิน 57) จากถนนเพชรเกษม เข้าซอยตรงไปสักประมาณ 130 เมตร ร้านจะตั้งอยู่ทางขวามือ หาไม่ยากครับ เปิดทุกวันตั้งแต่ 8.00 น. ไปจนกว่าของจะหมด โทร. 032-511255, 032-513055
จากของทานแล้ว เราพาเที่ยวกันบ้างดีกว่า ออกมาจาร้านตะโก้เสวยยังไม่ทันไรเราก็แวะกันต่อที่ คาเฟ่สุดฮิตของเมืองหัวหินเลยใครไม่มาถือว่าตกเทรนด์ กับร้าน Memory House Cafe Hua Hin ที่สาย Portrait จะพลาดไม่ได้เลย ร้านตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำเขาเต่า สามารถเดินไปวัดเขาเต่าได้ ซึ่งทริปนี้เราก็จะเดินกันไป ซึ่งบอกเลยว่าเป็นประสบการณ์ที่พลาด เหมือนคนพาเที่ยวแกล้ง เพราะว่าขับรถไปง่ายกว่าเยอะ แต่ถือว่ามาเดินออกกำลังกาย และดูสภาพแวดล้อมไปด้วย ก่อนไปเที่ยวเราก็แวะมาเติมเต็มความน่ารักกับเครื่องดื่มที่ร้าน Memory House Cafe Hua Hin ซิกเนเจอร์เจ้าหมีน้อยที่เป็นท็อปปิ้งนอนอยู่บนเครื่องดื่น สุดน่ารักขนาดนี้เราจะกินลงไม่เนี่ย อิอิ…. แต่ราคาน้องหมีนี้สิ น้ำ 2 แก้ว ขนมเค้ก 1 ชิ้น ในราคาโปรโมชั่นเกือบ 500 บาท ถ้าไม่มีโปรนี้จะเท่าไหร่เอย?… แต่ต้องให้เขาแหละ เพราะส่วนใหญ่มาซื้อวิวเพื่อถ่ายภาพกัน
ถึงเวลาไปเดินย่อยกันบ้างแล้ว จากร้าน Memory House Cafe Hua Hin เราสามารถเดินออกด้านหลังร้านเพื่อเดินไปวัดถ้ำเขาเต่า อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองหัวหิน ที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยพลุกพล่าน จากตอนแรกที่ดูเหมือนไม่ไกล แต่เดินท่าไหร่มันก็ไม่ถึงสักที่ เริ่มรู้สึกเราคิดผิดเปล่าหว่าที่เลือกเดินมา แต่ในที่สุดเราก็เดินมาถึงทางเข้าวัดจะมีร้านค้าที่เป็นประมงพื้นบ้านเขาเต่า ใครอยากได้ของฝากในราคาประหยัด และสามารถใช้สิทธิคนละครึ่งได้ด้วย ก็แวะมาหาซื้อของฝากกันได้
วัดถ้ำเขาเต่า เป็นวัดอยู่บนเชิงเขาติดทะเล อ.หัวหิน มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม จึงทำให้เขาเต่า กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ที่นี่ติด “หมู่บ้านเขาเต่า” ยังคงเป็นชุมชนที่มีความสงบ ชาวบ้านยังคงทำอาชีพประมงเรือเล็กหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง ไหว้พระด้านล่างแล้วเราสามารถเดินลัดเลาะตามแนวเขาไปอีกสักหน่อย ที่ก็ไม่ค่อยหน่อยเท่าไหร่หรอก เป็นทางเชื่อมไปตามป่าละเมาะ บนยอดเขาเต่าแล้ว ทุกคนจะได้พบกับวัดถ้ำเขาเต่า ซึ่งมีลักษณะเป็นถ้ำ ดูน่าเกรงขาม และมีประติมากรรมทางพุทธศาสนาให้นักท่องเที่ยวได้สักการะกราบไหว้อยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะบนยอดเขาเต่าด้านบนสุดนั้น เป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธศากยชินราช” อันเป็น พระพุทธรูปศิลปะสมัยสุโขทัยมีขนาดหน้าตักกว้าง 9.99 เมตร ขึ้นไปไหว้พระขอพรเสร็จแล้ว เราสามารถเดินข้ามไปลงอีกด้านหนึ่งของเขาได้ ก็จะพบกับ “หาดทรายน้อย” ซึ่งมีลักษณะเป็นอ่าวเล็กๆ ที่ถูกโอบล้อมด้วยไหล่เขาทั้งสองด้าน ด้านทิศเหนือก็คือ “เขาเต่า” ซึ่งหาดทรายน้อยจะมีชายหาดยาวประมาณเพียงแค่ 300 เมตรเท่านั้น บรรยากาศสงบเงียบ เรียบง่าย เป็นเขตรอยต่อ อ.ปราณบุรี ซึ่งใครจะมาทางรถยนต์สามารถเข้าทางนี้ได้ รับรองว่าไม่เหนื่อยเหมือนเดินขึ้นขาฝ่าป่าละเมาะเหมือน eyejung แน่นอน ทริปนี้โดนหลอกมาเดิน 55… แต่เมื่อเห็นวิวตรงหน้าก็รู้สึกหายเหนื่อยทันที่ อยากนั่งนิ่งอยู่อย่างนี้บางครั้งความรู้สึกมีความสุขที่ได้ถึงจุดหมายมันก็แค่นี้ ลืมเรื่องที่เหนื่อยที่เดินบ่นดมยาดมมาตลอดเส้นทางโกรธคนพามา แต่ทุกการเดินทางมันสร้างเรื่องราวให้น่าจดจำเสมอ เราอาจเจอเรื่องไม่คาดฝัน เจอความประทับใจที่ไม่อยากลืม ประสบการณ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกครั้งที่เราออกเดินทาง แต่ที่เที่ยวเมืองหัวหินยังไม่หมดเดี๋ยวมาตามต่อภาคสองกันนะคะ ตอนนี้ขอเวลาทำใจ เดินกลับขึ้นเขา แล้วเดินลงเขาเต่า เดินเลาะอ่างเก็บน้ำเพื่อกลับไปเอารถ อย่าถามว่าเหนื่อยไหม Bye : eyejung