เรื่อง : eyejung, ภาพทีม : CAMERART
บทความนี้มาจาก Camerart Magazine ฉบับ 261/2019 June
นิตยสาร CAMERART มีโอกาสได้เข้าร่วมเป็นสวนหนึ่งในการบันทึกภาพประวัติศาสตร์เนื่องใน พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งถือว่าเป็นการบันทึกภาพอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทย กับ พระราชประเพณีอันยิ่งใหญ่ที่สืบทอดมาแต่โบราณ เก็บภาพอันงดงามของพระราชพิธีอันสำคัญยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ไว้ให้กับอนุชนรุ่นหลังได้ชมในภายภาคหน้า เป็นอีกหนึ่งในความภูมิใจของทีม CAMERART ในฐานะช่างภาพที่มีโอกาสร่วมบันทึกภาพครั้งนี้ ผ่านเรื่องความภาคภูมิใจกันไปแล้ว เราก็ยังอยู่ในวังวนเศรษฐกิจที่ถดถอยจะหันไปทางไหน ก็อยู่ในสภาวะซึมๆ และข่าวใหญ่ที่ช็อควงการถ่ายภาพ….ที่อาจจะมีค่ายกล้องปิดตัวลง ตอนนี้เหมือนไทยแม้จะมีเลือกตั้งแล้ว…ที่หลายคนคิดว่าจะมีความหวัง แต่มันก็เหมือนกับอยู่ในสภาพหลับตาที่ไม่เห็นอะไรเลย ดูหม่นๆ…แต่เมื่อมีชีวิตอยู่ก็ต้องมีความหวังกันต่อไป… เราก็หวังว่าจะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เมืองไทยน่าจะออกจากความมืดมนนี้ไปได้ หวังกันต่อไป ในส่วนของ CAMERART เองเราก็มีการปรับเปลี่ยน ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ แต่ อ.นพ ของเราก็ยังใจดี เปิดคอร์ส…อบรมฟรี… จนหลายคนงง…ว่าฟรีจริงๆ หรือ จนต้องบอกว่าฟรีๆ จริงๆ ค่ะ หาได้ที่ CAMERART แหละ…บอกแค่นั้นคนก็ลงทะเบียนถล่มทลาย แต่เรารับได้แค่ครั้งละ 30 คน จนต้องเพิ่มเป็น 2 รอบ ซึ่งก็ยังมีคอร์สให้เข้าอบรมอยู่เรื่อยๆ สามารถติดตามผ่านทางหน้าเพจ CAMERART ได้
ส่วนกิจกรรม ทริปฝึกถ่ายภาพรอบนี้ เราจัดเส้นทางศักดิ์สิทธิให้เหล่าสมาชิกได้ทั้งถ่ายภาพและไหว้พระขอพรกันที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา แต่เอ๊ะพอรถเลี้ยวมาเส้นทางพระรามสาม หลายคนก็แปลกใจว่าไหนว่าไปจังหวัดฉะเชิงเทรา ทริปนี้ CAMERART มาแปลกจัดเที่ยวกรุงเทพฯ ด้วย กับ วัดปริวาสราชสงคราม วัดสวยที่สุดในย่านพระราม 3 วัดดังใจกลางเมืองที่มีความสวยอลังการ เกินกว่าหลายคนจะคาดถึง ด้วยความที่เรารู้จัก พี่ดำ หนึ่งในลูกศิษย์เก่าแก่ ที่มาช่วยงานท่านเจ้าอาวาสวัดปริวาสราชสงคราม ย่านพระราม 3 ความโดดเด่นพิเศษของปริวาสราชสงคราม “ประติมากรรมปูนปั้นเบญจรงค์” บวกกับงานศิลปะไม่มีขอบเขตสิ้นสุด ไม่มีกฎเกณฑ์ จะแปลกพิสดาร จะใส่การ์ตูนลงไป หรือเอาตัวละครยุคเก่ายุคใหม่มารวมกัน และการใช้เทคนิคปูนปั้นแบบโบราณประดับด้วยเครื่องถ้วยเบญจรงค์ที่มีสีสันหลากหลาย แค่เห็นผลงานก็สะกดทุกสายตาแล้ว ว่ามีวัดที่มีศิลปะที่สวยงามผสมผสานยุคสมัยได้อย่างลงตัว สมาชิกหลายคนถึงกับตลึงว่า…ไม่คิดว่าจะมีวัด สวยๆ แบบนี้อยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ จนหลายคนบอกว่าต้องมีเวลามานั่งปั้นมุม และอีกอย่างเหมือนกับการหา RC เหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ ที่มีอยู่รอบโบสถ์ ไม่ว่าจะเป็นป๊อบอาย วันพีซ เฉินหลง ซุปเปอร์แมน แองเจลิน่า และอีกหลากหลายตัวแสดง และวันนี้บังเอิญมีงานบวช พวกเราเลยถ่ายงานบวชกันด้วย จนคนในงานแปลกใจว่าทำไมงานนี้ช่างภาพเยอะจัง 555…
ภาพถ่ายโดย จีรวรรณ ไทยประสานทรัพย์
ภาพถ่ายโดย แสงชัย เตชะสถาพร
ภาพถ่ายโดย คีรีขันธ์ ไชยพร
ภาพถ่ายโดย โกวิทย์ มะณีเนตร
และ…เวลาสำคัญของงานบวชคือการโปรยทาน ช่างภาพรอ CAMERART พร้อมถ่ายภาพตอนโปรยทาน จนคนในงานบอกให้หลบช่างภาพหน่อย ลุงแซม ถือทั้งภาพนิ่งและกล้องแอคชั่นแคม พอเริ่มโปรยแค่นั่นแหละ ช่างภาพอย่างพวกเราก็หายวับกันไปหมด หันไปอีกที่ก้มเก็บเหรียญโปรยทานกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน แต่ที่สุดฮาก็ตรง พี่น้อย เนี่ยแหละ ที่ได้กล่องไม้ขีด แล้วบอกฝากให้ eyejung เอาไปให้พี่ป้อน เพราะว่าพี่ป้อนสูบบุรี่ แต่พอ eyejung เปิดมากลายเป็นแบงค์ 20 บาท eyeung เลยขอแฮบไม่ได้ให้พี่ป้อน 555… แต่ลุงแซมเราไม่ธรรมดาได้มาถึง 3 กล่อง แม้แต่คุณ เบียทรีส ยังเก็บ อิอิ…
จบจากพิธีบวช ก็ออกเดินทางกันต่อไปยัง จังหวัดฉะเชิงเทรา กันได้แล้ว จุดแรกวัดคู่บ้านคู่เมืองของแปดริ้ว วัดหลวงพ่อโสธร (วัดโสธรวรารามวรวิหาร) วัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย อันเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของประชาชนทั่วทุกสารทิศ ภายในประดิษฐาน “หลวงพ่อพุทธโสธร” วันนี้เราจะพาไปสักการะพระคู่บ้านคู่เมืองชาวแปดริ้ว พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ลงรักปิดทองแบบล้านช้าง ขอพรกันแล้วก็ไปเดินถ่ายภาพกันต่อ ออกจากวัดหลวงพ่อโสธรแล้ว ที่นี่ยังมีตลาดโบราณให้เดินเล่นกัน คือ ตลาดบ้านใหม่ ที่มีขายเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ เป็นตลาดเก่าอายุกว่า 100 ปี เป็นชุมชนชาวไทยเชื้อ สายจีน
ตลาดบ้านใหม่ เมื่ออดีตสถานที่แห่งนี้มีความคับคั่ง ด้วยผู้คนที่มาประกอบอาชีพค้าขาย รวมทั้งเป็นจุดแลกเปลี่ยนสินค้าสำคัญของ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งจะดูได้จากอาคารบ้านเรือนที่ปลูกสร้างติดๆ กัน และอยู่ชิดริมน้ำ วันเวลาผ่านพ้นไปนานแต่ความสำคัญของตลาดริมน้ำแห่งนี้ก็ยังคง ดำรงอยู่จนถึงปัจจุบัน ด้วยความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นคือ อายุสถานที่ที่ยาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ทำให้ตลาดแห่งนี้ยังคงมีมนต์ขลัง สำหรับหลายคนที่ยังอยากซึมซับบรรยากาศดังเดิม นอกจากบ้านเรือนที่ยังคงสุดคลาสสิค เรายังสามารถหาทานอาหารโบราณ อาทิ ข้าวห่อใบบัวครูลิน ขนมกุ๋ยช่าย ก๋วยเตี๋ยวหมู่หมูโบราณ เดินเล่นถ่ายภาพได้เพลิดเพลินมาก อิ่มกันจนพุงกางได้เวลาไปต่อกับการถ่ายภาพแนววิถีชีวิตกันบ้าง ที่ หมู่บ้านน้ำตาลสด
กับศูนย์การเรียนรู้ สมนึกน้ำตาลสด อยู่ในหมู่บ้านน้ำตาลสด บ้านปากน้ำ ต.บางคล้า อ.บางคล้า ถือเป็นแหล่งอนุรักษ์การทำน้ำตาลสดแบบโบราณดั้งเดิม ที่ยังคงรักษาภูมิปัญญาการทำน้ำตาลสด ที่นับวันจะลดน้อยลงไปทุกวัน การรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมการดำรงชีพของชาวท้องถิ่น และถ่ายทอดสิ่งเหล่านี่ต่อลูกหลานและบุคคลทั่วไป เพื่อให้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในของการทำน้ำตาลสดยังคงอยู่คู่กับสังคมไทยต่อไป
รอบนี้เราเลยขอจัดซีนสาธิตการขึ้นต้นตาลเพื่อเก็บน้ำตาลสด โดยได้รับเกียรติจาก ลุงหม่อง นายแบบประจำหมู่ ที่เป็นผู้มีประสบการณ์การปีนต้นตาลมากว่า 40 ปี เรียกว่าทริปนี้พวกเราแหงนจนคอตั้ง มาบ้านหมู่บ้านน้ำตาลสดพลาดไม่ได้ที่จะต้องชิมน้ำตาลสดที่เชื่อมั่นได้เลยว่าเป็นน้ำตาลสด 100% เพราะเราได้เห็นขั้นตอนการต้ม นอกจากนี้พวกเรายังได้เรียนรู้ว่ากว่าจะได้กินน้ำตาลสดต้องต้นมีอายุ 10 ปี ขึ้น ใน 1 ปี จะได้กินเพียง 1 ครั้ง ในช่วงเดือน ต.ค.– พ.ค. เพียง 6 เดือนเท่านั้น กว่าจะได้กินก็ไม่ใช่เรื่องง่ายต้องมีการปีนขึ้นไปนวดงวงตาลตัวผู้ ฟังขึ้นตอนแต่ละอย่างบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย งานนี้คนในทริปเลยไม่พลาดที่จะซื้อกลับมาเป็นของฝาก
จากหมู่บ้านน้ำตาลสดไปไม่ไกล เราก็ยังอยู่ในเส้นทางศักดิ์สิทธ์พาทุกท่านมาไหว้พระขอพรกันต่อที่ วัดปากน้ำโจ้โล้ ที่มีโบสถ์สีทองทั้งหลังไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอกตัวอุโบสถ ที่งดงามตระการตาเป็นอย่างมาก วันนี้เรามากันช่วงเย็นนักท่องเที่ยวจึงไม่เยอะมาก และมีการจัดงานศพอยู่ เลยทำให้ พี่น้อง เราน้ำตาซึมไปเลย เพราะเพิ่งผ่านงานศพคุณแม่มาเหมือนกัน ยิ่งช่วงบรรยากาศเข็นศพเวียนรอบเมรุลมพัดฟ้าฝนคะนอง ยิ่งทำให้บรรยากาศดูเศร้าเข้าไปอีก ส่วนอีกคนที่สาระวนกับการจัดใบไม้แต่ลมก็พัดใบไม้พลิวจน eyejung ต้องช่วยพี่ป้อนจัดการโกยใบไม้เข้าฉาก กว่าจะสำเร็จฝนก็ตกพอดี แต่โปรแกรมเรายังไม่จบ เรายังอยู่ในเส้นทางของจังหวัดฉะเชิงเทรา กับจุดสุดท้ายที่วัดโพรงอากาศ
ภาพถ่ายโดย จิรัฏฐ์
วัดโพรงอากาศ ตั้งอยู่ในอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นอีกหนึ่งวัดที่สวยงามของจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของประชาชน สิ่งโดดเด่นของวัดก็คือ พระอุโบสถมหาเจดีย์ขนาดใหญ่สีทองอร่ามซึ่งหลวงพ่อสมชายเจ้าอาวาสคนปัจจุบันตั้งใจสร้างเพื่อ ให้เป็น สถานที่สำคัญของเมืองแปดริ้ว รวมถึงอุทยานพระพิฆเนศของวัดโพรงอากาศ ซึ่งมีองค์พระพิฆเนศปางนั่งประทานพรองค์ใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดมองเห็นโดดเด่นมาแต่ไกลจากถนน เป็นภาพที่สวยงามอย่างมาก นอกจากนี้วัดโพรงอากาศ ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น การสักการะพระพุทธรูปจำลอง ทั้งหลวงพ่อโสธร หลวงพ่อวัดบ้านแหลม หลวงพ่อโต หลวงพ่อวัดไร่ขิง และหลวงพ่อวัดเขาตะเครา หรือเรียกกันว่า พระ 5 พี่น้อง เดินทางมาถึง น้องโอ๊ต ชัยสิทธิ จุนเจือดี ช่างภาพมากฝีมือ ศิษย์ก้นกุฏิ อาจารย์นพดล รอบนี้ขอมาจอยทริปกับพีๆ ชาว CAMERART หลังจากส่งภรรยาสุดที่รักเข้ามาอบรมถ่ายภาพ หวังให้เป็นช่างภาพหญิงประจำตัว หวังว่าน้องฝ้ายจะเป็นช่างภาพสาวคนเก่งคู่กาย น้องโอ๊ต คนต่อไป แต่โอ๊ต มาทั้งทีก็ต้องมีเรื่องให้จดจำกับภารกิจช่วยชีวิตน้องแมว เพราะเจ้าน้องแมวเจ้ากรรมโดนสุนัขนักเลงโตประจำวัดไล่กวดมา เลยหนีไปอยู่ใต้ท้องรถโอ๊ต แล้วมุดไปมุดมาไปอยู่ในห้องเครื่อง จนออกไม่ได้ เดือดร้อนพี่ๆ ที่ต้องกลายเป็นหน่วยกู้ภัยช่วยชีวิตเจ้าแมวน้อย ผู้ที่มีประสบการณ์เรื่องนี้ก็ไม่ใช่คนอื่นไกล พี่ตาล ของเรานั่นเอง 555…
นั่งฟังเสียงแมวร้อง แล้วค่อยหาตำแหน่งที่อยู่ คุณตาลเราคาดการณ์ว่าน่าจะอยู่ช่วงห้องเครื่องด้านหลังแต่จะให้ชัวร์ต้องมุดไปดู งานนี้ไม้พ้นมือพี่ตาลอีกแล้วครับผม งานอะไรยากๆ ที่ใครทำไม่ได้ ก็ไม่พ้นมือพี่ตาล 555… สุดยอดผู้หญิงเก่งของ CAMERART ส่วนพวกผู้ชายนะเหรอ ได้เป็นแค่ผู้ช่วย อะไรแมนๆ ให้พี่ตาลทำ อิอิ… ว่าแล้วก็ไม่รอช้าพี่ตาลหาผ้ามารองแล้วมุดเข้าไปตรวจสอบ และแล้วก็หาเจอและพยามดึงออกมาได้สำเร็จ eyejung ที่นั่งลุ้นอยู่ใกล้ๆ คุณตาลดึงออกมาสำเร็จ แต่เจ้าน้องแมวมันคงตื่นกลัววิ่งตื่นมาหา eyejung แต่ eyejung ก็ตื่นกลัวน้องแมวที่วิ่งมาหา เลยกรี๊ดสุดเสียง น้องแมวเลยวิ่งเตลิดเข้าไปใต้ท้องรถอีกรอบ 555… ตัวทำภารกิจเขาพังทลาย ว่าแล้วก็ต้องมาหาว่าน้องแมวอยู่ไหน รอบนี้โชคดีเจออยู่ในห้องเครื่องด้านหน้า ครั้งนี้ น้องโภช น้องยุทธ เลยช่วยกันดึงออกมาได้สำเร็จ กลับภารกิจช่วยชีวิตแมว จนหมดเวลา โอ๊ตบอกว่ากลัวพี่ๆ ไม่จำ 555.. คราวนี้พี่ๆ จำชี่อโอ๊ตจนขึ้นใจเลย เป็นการปิดท้ายทริปที่ได้ร่วมกันสร้างบุญไปด้วยกัน ตอนหน้าจะมีภารกิจอะไรที่ให้พวกเราไปพิชิตอีกโปรดติดตาม Bye…eyejung