อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล

การไปเที่ยวจังหวัดจันทบุรี มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง หลากหลายรูปแบบ ถ้านำมาลงให้ชมให้หมด และหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของจันทบุรี ถ้าได้กล่าวถึงโบสถ์คริสต์ที่สวยที่สุดในประเทศไทย นั่นคืออาสนวิหารพระนางมารีอาปฎิสนธินิรมล

โบสถ์โกธิค หนึ่งเดียวในจันทบุรี

ใครมาเที่ยวจังหวัดจันทบุรี ต้องมาเชคอินที่โบสถ์แห่งนี้ ไม่เช่นนั้นจะมาไม่ถึงจันทบุรีครับ กล่าวกันว่าเป็นโบสถ์คริสต์รูปแบบศิลปะโกธิคที่สวยที่สุุดในประเทศไทย โบสถ์แห่งนี้ได้ฐานะเป็น อาสนวิหาร หรือ Cathedral มีจุดเริ่มต้นของการก่อกำเนิดในระหว่างปี พ.ศ. 2273-2295 โดยกลุ่มชาวญวนอพยพ ที่เข้ามาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าสรรเพชญ์ที่ 9 แต่ก็ได้มีการสร้างขึ้นมาใหม่อีกหลายครั้ง ย้ายตำแหน่งและสร้างขึ้นใหม่ จนมาถึงปัจจุบันซึ่งมีอายุรวมกว่า 110 ปี โดยนับจากการสร้างใหม่ในครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2452 ที่มีพิธีการเสกตั้งยอดแหลมหอระฆัง 2 ยอด ภายในวิหารมีการตกแต่งเพดานเป็นท้องเรือไม้โนอาห์ ช่องบานกระจกแบบกอทิก และกระจกงานกระจกสี นอกจากนี้ภายในยังมีแม่พระที่มีความล้ำค่า ซึ่งตกแต่งด้วยพลอยกว่า 200,000 เม็ด หรือกว่า 2 หมื่นกะรัต และฐานซึ่งหล่อขึ้นด้วยเงินบริสุทธิ์ ประดับองค์ด้วยทองคำและพลอยชนิดต่างๆ วิหารแห่งนี้ได้รับรางวัลอนุรักษ์อาคารดีเด่น ประจำปี 2542 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์อีกด้วย

สถานที่ศักสิทธิ์แห่งนี้ นับเป็นประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ น่าศึกษา ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี มีเจ้าหน้าที่ประจำโบสถ์หลายคนในช่วงเวลาที่โบสถ์เปิด มีกฎระเบียบต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวควรทราบไว้ เช่น ควรแต่งกายสุภาพ ไม่นุ่งกางเกงขาสั้นอย่างไรก็ตามทางศาสนสถานมีผ้ายาวสวมทับไว้บริการนักท่องเที่ยว ห้ามใส่เแว่นดำกันแดดในโบสถ์ มีกิริยาสุภาพไม่ส่งเสียง ไม่นั่งไขว่ห้าง และสำหรับช่างภาพ ไม่อนุญาตให้ใช้ขาตั้งกล้อง ในข้อนี้ผมได้ถามกับเจ้าหน้าที่ว่า ทำไมห้ามใช้ขาตั้ง เจ้าหน้าที่ตอบว่า พื้นของโบสถ์เป็นกระเบื้องเก่า อายุนับร้อยปี อาจจะชำรุดเสียหายได้ ดังนั้นกล้องที่ใช้ถ่ายภาพ ควรเป็นกล้องที่สามารถดัน ISO ได้สูง โดยคุณภาพของไฟล์ยังดีอยู่ ช่างภาพต้องใช้มือถือกล้องถ่ายภาพอย่างเดียว ไม่สามารถใช้ขาตั้งกล้องได้ จึงต้องดัน ISO ให้สูงเพื่อท่านจะตั้งชัตเตอร์สปีดแบบปานกลางได้ครับ

ควรติดเลนส์ช่วงอัลตร้าไวด์ หรือเลนส์มุมกว้างมากๆ ไปด้วย เช่น 17 มิลลิเมตร ลงมา และถ้ามี ฟิชอายไปด้วยเพื่อใช้กับบางมุม จะได้ภาพที่ดีครับ ผมขอแนะนำมุมแหงนตรงๆ 90 องศา มองขึ้นไปบนเพดาน และตำแหน่งต้องอยู่ตรงกลางโบสถ์ เห็นโคมไฟเพดานตรงกลางภาพพอดี ภาพออกมาจะเหมือน เรือโนอาห์ เห็นโครงกระดูกงูเรือชัดเจนได้เต็มๆ ตั้งแต่ด้านหนึ่งไปถึงอีกด้านหนึ่งครับ

ส่วนไฮไลท์ของการถ่ายภาพโบสถ์ อีกจุดหนึ่งคือ การถ่ายภาพกระจกสี ที่มีความสวยงามไม่แพ้งานสถาปัตยกรรมเลย ควรอยู่ตำแหน่งที่ภาพไม่เอียง ดิสตรอชั่น ควรเป็นมุมตรงกล้องกับหน้าต่างควรตั้งฉากกับหน้าต่าง จะได้ภาพที่สมบูรณ์อีกเช่นกันครับ

งานถ่ายภาพด้านนอกโบสถ์ มุมที่เหมาะสมในการถ่ายภาพที่สมบูรณ์แบบ จะเป็นมุมด้านหน้าโบสถ์ ที่เห็นยอดแหลมสองยอดของหอระฆัง และมีรูปปั้นพระแม่มารี อยู่ด้านหน้าสุด โบสถ์หันหน้าค่อนไปทางทิศตะวันตก ดังนั้นช่วงบ่ายๆ ไปแล้วภาพตัวโบสถ์ และรูปปั้นจะรับแสงที่สาดส่องมาได้มิติภาพที่ดี แต่ภาพที่ผมนำมาเสนอให้ชมในชุดนี้ เป็นช่วงเวลาที่ผมไปเก็บภาพตอนเช้ามืด ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น และช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและ ซึ่งคาดหวังว่าจะเห็นท้องฟ้าที่สวยงาม แต่ในวันที่ผมไปตั้งกล้องถ่าย ท้องฟ้าเรียบแบน ไม่มีเมฆลอยเป็นเกล็ดให้เห็นแต่อย่างใด ถ้าถ่ายภาพมุมหน้าโบสถ์ในช่วงเช้า จะเป็นการถ่ายภาพย้อนแสงที่ไม่ค่อยสวยงามเท่าที่ควรครับ