เรื่อง+ภาพ : ApochTophy’S
บทความนี้มาจาก Camerart Magazine 257/2019 February
งานศิลปะประเภท Minimal เรามักจะพบเห็นกันมากในยุคนี้ด้วยว่ากำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มศิลปินรุ่นใหม่ งานประเภท Minimal มักจะเป็นงานที่มีเอกลักษณ์เด่นชัด คือ ใช้อะไร ‘น้อย’ แต่ให้ดู ‘มาก’ เราจึงพบว่าในงานประเภทนี้จะมีพื้นที่ของฉากหลังที่โล่งๆ มีมุมภาพที่กว้าง ซึ่งตรงกับการจัดองค์ประกอบศิลป์ในเรื่องของ Space, Shape & form
ในการจัดวางองค์ประกอบภาพ โดยส่วนใหญ่แล้ว ความสำคัญจะถูกมุ่งเน้นไปที่วัตถุหลัก (Shape & form) ในภาพนั้นๆ ว่าเราจะจัดวางให้อยู่ในตำแหน่งใดๆ ในภาพ บางครั้งเราให้ความสำคัญกับวัตถุต่างๆ ที่อยู่ในภาพมากเกินไป จนลืมไปว่า ยังมีส่วนที่ไม่ใช่วัตถุต่างๆ เท่านั้นที่มีผลต่อองค์ประกอบของภาพ ในส่วนของพื้นที่ที่ไม่มีวัตถุต่างๆ อยู่เลย ที่เราเรียกว่า พื้นที่ว่าง (Space) ซึ่งพื้นที่ว่างนี้ส่งผลต่อองค์ประกอบภาพอยู่มาก
พื้นที่ว่าง ในทางทัศนศิลป์นั้นหมายถึงความว่างเปล่าซึ่งก็คือ บริเวณว่างระหว่างสิ่งต่างๆ ที่ปรากฏในพื้นที่นั้น บางครั้งเรียกว่าช่องไฟ โดยมักจะเป็นส่วนหรือพื้นที่ของฉากหลังที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุในภาพเขียนหรือภาพถ่าย (ที่ว่างแบบ 2 มิติ) หรือพื้นที่ว่างระหว่างชิ้นส่วนของงานในงานประติมากรรม หรือบรรยากาศรอบๆ ในงานสถาปัตยกรรม (ที่ว่างแบบ 3 มิติ) พื้นที่ว่างนี้จะนับรวมทั้ง ที่ว่างระหว่างรูปร่างรูปทรง, พื้นผิว และสีของสิ่งต่างๆ รวมทั้งปริมาตรของอากาศที่ล้อมรอบรูปทรงหรือวัตถุ และการแทนที่ความลึกเพื่อต้องการลักษณะของความเป็น 3 มิติ ให้อยู่ในงาน 2 มิติ ตามปกติที่ว่างจะเป็นทัศนธาตุที่มองไม่เห็น ที่ว่างจะปรากฏขึ้นเมื่อ มีทัศนธาตุอื่นเกิดขึ้นและพื้นที่ระหว่างทัศนธาตุอื่นๆ นั้นแหละคือ ที่ว่าง (Space)
เช่นเดียวกันที่ศิลปะแบบ Minimal นั้น สิ่งสำคัญคือการใช้วัตถุที่น้อยชิ้นเป็นหลัก ดังนั้นองค์ประกอบเรื่องการใช้พื้นที่ว่าง รูปร่าง และรูปทรงจึงเป็นเรื่องสำคัญ ตัวอย่างผลงานศิลปะที่เป็นสไตล์ Minimal ที่เรารู้จักกันก็คือ Moai (โมอาย) แท่งหินยักษ์สกัดเป็นรูปคน ที่มีหน้าใหญ่ยาวผิดปกติจนกลายเป็นจุดเด่นนอกจากนี้ยังมีผลงานศิลปะอีกมากที่ยึดถือหลัก Minimal ในการสร้างสรรค์งาน
Minimalism เป็นชื่อเรียกกลุ่มศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Minimal Art ศิลปะสไตล์นี้เกิดขึ้นในอเมริกา ช่วงยุค 60’ โดยมีแนวคิดที่จะลอกเปลือกเพื่อเลือกเอาแต่แก่นที่มีอยู่ของวัตถุหรือสิ่งต่างๆ เหล่านั้นที่ศิลปินต้องการนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นการใช้สี หรือองค์ประกอบที่จำเป็น ซึ่งเป็นการผสมผสานกันของ รูปร่าง (Shape) รูปทรง (Form) และพื้นที่ว่าง (Space) และยิ่งเป็นที่สนใจมากขึ้น เมื่อคนรุ่นใหม่เริ่มมองหาความสงบเรียบง่ายภายในจิตใจมากขึ้น
ว่ากันว่า Minimalist ได้รับอิทธิพลมาจากหลักแนวคิดแบบเซน (Zen) ของศาสนาพุทธ ที่มีสอนว่า “อย่ายึดติดวัตถุสิ่งของ” นอกจากนี้ศิลปะ Minimalist ยังมีแนวคิดสอดคล้องกับปรัชญาของญี่ปุ่น สังเกตได้จากศิลปะของญี่ปุ่นส่วนใหญ่นั้น ค่อนข้างเป็นศิลปะแบบ Minimalist อย่างเช่น การจัดดอกไม้ของญี่ปุ่นการจัดสวน ปรัชญาแนวคิดแบบวาบิ-ซาบิ หรือแม้แต่ วรรณกรรมกวีไฮกุ ในเรื่องของการใช้สิ่งของหรือวัตถุน้อยชิ้น แต่มากไปด้วยความหมายหรือคุณค่า
สำหรับภาพถ่าย Minimal ก็เป็นรูปแบบหนึ่งของการแสดงออก โดยมากศิลปินจะถ่ายภาพ โดยการมองให้ลึกถึงตัวตนของสิ่งนั้นๆ ตีความออกมา เป็นภาพเพื่อสื่อแก่ผู้ชมทั้งการสื่อแบบตรงไปตรงมา หรืออาจจะแอบซ่อนบางสิ่งบางอย่างไว้ให้ผู้ชมตีความ หรือคิดต่อไปก็ได้ เคล็ดลับสำหรับ การถ่ายภาพ Minimal นั้นมีหลักการอยู่ไม่กี่ข้อ
Remove eye distractions
เอาสิ่งที่รบกวนสายตา รกรุงรังหรือน่ารำคาญในภาพออกไปเสีย คงจะเป็นไปไม่ได้ทุกครั้งที่เราจะขจัดฉากหลังที่รกสายตาออกไปได้ ดังนั้นคงจะง่ายกว่ามาก ถ้าเรารู้จักการเลือกฉากหลังในภาพให้พิถีพิถันมากขึ้น รวมทั้งการเลือกใช้เลนส์ที่ทางยาวโฟกัสที่เหมาะสมก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่ง แน่นอนที่ช่วงความชัดลึกนั้นเอามาใช้ได้ แต่ที่แน่ๆ คุณสมบัติที่ผลักฉากหลังออกไปหรือ ดึงฉากหลังเข้ามาของเลนส์มุมกว้างและเลนส์เทเลโฟโต้ คงจะทำให้เราทำงานได้ดียิ่งขึ้น
Make it Striking
สร้างสิ่งที่สะดุดตา สิ่งที่จะสร้างความน่าสนใจและดึงดูดสายตาในภาพถ่ายได้เป็นอย่างดีก็คือการใช้แสง และสีที่มีความน่าสนใจ เช่น การใช้แสงที่สาดผ่านวัตถุบางอย่าง หรือการเลือกจับคู่สีคู่ตรงข้าม สีตัดกัน รวมทั้งรูปร่างรูปทรงที่แปลกตา
Make it though provoking
ไม่ต้องบอกอะไรทั้งหมดลงไปในชิ้นงาน ปล่อยให้ผู้ดูได้ตีความเอาเองบ้างก็ได้ ภาพหลายภาพของศิลปิน หรือช่างภาพที่โด่งดังมักจะเป็นภาพที่แฝงไว้ด้วยอะไรบางอย่าง ที่ทำให้ดูแล้วสามารถคิดตาม หรือคิดต่อไปได้อีกเรื่อยๆ
Play with light
เล่นกับแสงและเงา ใช้แสงในการเน้นส่วนสำคัญ และใช้เงาในการบังส่วนไม่สำคัญในภาพ พยามใช้แสงและเงาที่จะทำให้ได้ภาพอย่างที่ต้องการ อันนี้คงต้องถึงเวลาขยันหาโลเกชั่นถ่ายรูป และไปให้ถูกเวลา
Go for patterns
นำการซ้ำมาใช้ นอกจากจะดูสวยงามแล้วยังดึงดูดให้น่าสนใจได้ แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ทั้งหมดในภาพก็ได้ การซ้ำกันของวัตถุในภาพทำให้ภาพดูสะอาดตาและเป็นระเบียบ
Details matter
ความสำคัญของรายละเอียด แม้ว่าภาพมุมกว้างที่เก็บวัตถุต่างๆ มาได้หมดจะดูสวยงาม แต่สำหรับ Minimal แล้วสิ่งสำคัญอยู่ที่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เฉพาะเจาะจงลงไปมากกว่า รายละเอียดนี้รวมไปถึงการใส่ใจวัตถุ และฉากหลังของภาพด้วยนะครับ
สำหรับงาน Minimal นั้นหลักการจัดการ Space ในภาพนับว่ามีส่วนสำคัญที่เราจะนำมาใช้ สรุปง่ายๆ เราใช้หลักการของ Shape & form มาใช้ในการพิจารณาวัตถุในภาพ และเราใช้หลักการของ Space ในการพิจารณาฉากหลังของภาพ ในการสร้างสรรค์งานประเภท Minimal นั่นเองครับ…