ภาพ : วสันต์ วณิชชกร
บทความนี้มาจาก Camerart Magazine 257/2019 February
มวลหมู่ศิษยานุศิษย์ และคลื่นมหาชน ผู้เคารพรัก “หลวงพ่อคูณ” ร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ “หลวงพ่อคูณ” กันอย่างเนืองแน่น ณ เมรุลอยชั่วคราว บริเวณพุทธมณฑลอีสาน ตั้งแต่เช้าวันที่ 29 มกราคม 2562
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะเจ้าภาพงานพิธีพระราชทานเพลิงศพ พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธกำหนดงานพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ และครูใหญ่พระเทพวิทยาคม เป็นกรณีพิเศษ ประจำปีการศึกษา 2561 โดยพิธีการดังกล่าวเริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2562 ทำพิธีบรรจุสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ลงในหีบศพที่ทำจากไม้หอม
ในวันต่อมา ในเวลา 6.00 น. ก็ทำการเคลื่อนสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ และร่างครูใหญ่ทั้งหมด จากคณะแพทย์ศาสตร์ มาที่ศูนย์ประชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น จากนั้นในวันที่ 21-28 ม.ค. นั้น ม.ขอนแก่นกำหนดให้มีพิธีสวดพระอภิธรรม รวม 4 รอบ ประกอบด้วย รอบเวลา 10.00, 14.00, 17.00 และ 19.00 น. โดยพระพิธีธรรม 10 รูป และในเวลา 11.00 น. จะเป็นพิธีถวายภัตตาหารเพล แด่พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ และพระภิกษุสามเณรที่มาร่วมงาน ขณะที่ในเวลา 17.30 น. จะเป็นการแสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ โดยพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์
พิธีพระราชทานเพลิงศพ “หลวงพ่อคูณ” เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเช้า ของวันที่ 29 มกราคม 2562 มีการถวายภัตตาหารพระภิกษุ สามเณร จากนั้นพระเดชพระคุณพระพรหมมังคลาจารย์ (ธงชัย ธมฺมธโช) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 8 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ มีพิธีสวดมาติกาบังสุกุล ทอดผ้าบังสุกุล
ในเวลา 12.00 น ได้ทำการเคลื่อนสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ มายังฌาปนสถานชั่วคราววัดหนองแวง (พระอารามหลวง) ณ บริเวณด้านหลังพุทธมณฑลอีสาน ทำพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารในเวลา 17.00 น. และ ทำการเผ่าจริง ซึ่งทางคณะกรรมการจัดงาน ได้กำหนดฤกษ์เผาจริงในเวลา 22.15 น
รศ.ดร.กิตติชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า เพื่อดำเนินตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อ คูณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และคณะทำงานฯ ได้กำหนดพิธีบำเพ็ญกุศลฯ ในวันอังคารที่ 22-28 มกราคม 2562 ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น และจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ในวันอังคารที่ 29 มกราคม 2562 ณ พุทธมณฑลอีสานจังหวัดขอนแก่น โดยเมรุลอยหลวงพ่อคูณออกแบบให้สอดคล้องกับประเพณีโบราณของอีสานสำหรับพระสงฆ์ที่มีสมณะสูงได้ออกแบบเป็นรูปนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกสีขาวบริสุทธิ์ทั้งหลัง ซึ่งเป็นการจินตนาการถึงสวรรค์ บนฐานแปดเหลี่ยม สูง 22.6 เมตร และฐานเมรุกว้าง 16 เมตร ประดับประดาด้วยสรรพสัตว์ต่างๆ จากเขาพระสุเมรุ จำลองตามคติในพระพุทธศาสนา มีรูปทรงและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะแสดงถึงอัตลักษณ์ของชาวอีสาน หลังจากพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ หลวงพ่อคูณปริสุทโธ สถานที่ตรงนี้จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และได้วางแผนการก่อสร้างอนุสรณ์สถานครอบไว้ เพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงคุณงามความดีให้ศิษยานุศิษย์สามารถเข้าสักการะได้ โดยรูปแบบทางสถาปัตยกรรม จะใช้สีขาวเป็นสัญลักษณ์ มีรูปแบบประยุกต์ เรียบง่าย สมถะ สันโดษ บรรยากาศภายในใช้แสงเป็นสัญลักษณ์แห่งนิพพาน ด้านพระครูคชสารวรานุสิฐ เจ้าคณะตำบลด่านนอก วัดหนองหัวช้างชัยรังสี ต.ด่านใน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการวัดบ้านไร่ กล่าวว่า ในการที่จังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย ม.ขอนแก่น เตรียมจัดพิธีพระราชทานเพลิงครูใหญ่เป็นกรณีพิเศษ คือ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ตนในฐานะเป็นศิษยานุศิษย์และเป็นศิษย์เอกของท่าน พร้อมด้วยศิษย์ของท่านจำนวนมาก พอใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่การจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) รูปแบบและแนวคิดในการก่อสร้างเมรุลอย และรูปแบบแนวคิดในการก่อสร้างอนุสรณ์สถาน ขอขอบคุณที่จังหวัดขอนแก่นและ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เห็นความสำคัญของหลวงพ่อคูณที่อยู่ในใจและความเคารพนับถือของชาวโคราชและคนไทยทั้งประเทศ
ขอขอบคุณ คุณวสันต์ วาณิชชากร เอื้อเฟื้อภาพถ่าย